“ผบ.ทบ.” ใช้เวลาวันหยุดเยี่ยมให้กำลังใจทหารใหม่ในพื้นที่ กทม. กำชับ ผบ.หน่วยดูแลการฝึกตามมาตรฐาน พร้อมใส่ใจทหารใหม่ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ใช้เวลาในช่วงวันหยุดราชการในวันเสาร์ที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่ หน่วยฝึกทหารใหม่ กองร้อยพลเสนารักษ์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 และหน่วยฝึกทหารใหม่กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 ซึ่งในขณะนี้ทหารกองประจำการผลัดที่ 2/2567 อยู่ในห้วงของการฝึกทหารใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากองทัพบกได้ให้ความสำคัญกับการดูแลทหารกองประจำการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นการแสดงความห่วงใยของผู้บัญชาการทหารบก ที่มีต่อทหารกองประจำการ ในภารกิจสำคัญเพื่อปรับสภาพความเป็นพลเรือนสู่ความเป็นทหาร ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจเพื่อกองทัพและประเทศชาติต่อไป
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้รับฟังการบรรยายสรุป แนวทางการระวังป้องกันการเจ็บป่วยจากความร้อน และสุขภาวะทางจิตใจในการฝึกทหารใหม่ โดยกรมแพทย์ทหารบกและโรงพยาบาลสังกัดกองทัพบกทั้ง 37 แห่ง โดยได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการเจ็บป่วยจากความร้อน โรคระบาด และสุขภาวะทางจิต แก่หน่วยฝึกทหารใหม่ทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการปฏิบัติตามมาตรฐานการฝึก ของกรมยุทธศึกษาทหารบก ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมก่อนการฝึก การนิเทศให้ความรู้ และประเมินสุขภาวะทางจิตครูฝึก ส่วนในห้วงการฝึกทหารใหม่ ได้กำหนดให้มีการตรวจร่างกาย คัดแยกกลุ่มทหารใหม่ เพื่อฝึกตามสภาพความพร้อมของร่างกายที่แตกต่างกัน ควบคู่กับการประเมินดัชนีความร้อนในพื้นที่ฝึกและโรงนอนเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากความร้อน รวมทั้งจัดเตรียมซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ และการปฐมพยาบาล เพื่อให้มีความพร้อมในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ
นอกจากนี้ พล.อ.พนา ได้มอบผลไม้และเครื่องดื่มเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ทหารใหม่ รวมทั้งตรวจเยี่ยมการประกอบเลี้ยงและการรับประทานอาหารกลางวันของทหารใหม่ พร้อมกำชับให้ดูแลการประกอบเลี้ยงให้เป็นไปอย่างถูกสุขลักษณะ จัดหาอาหารที่สะอาด ด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และมีความเพียงพอตามหลักโภชนาการ ส่วนการฝึกได้เน้นย้ำในระบบการฝึกจากเบาไปหาหนัก การดูแลป้องกันโรคลมร้อน ด้วยการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการแจ้งเตือนสภาพอากาศ รวมทั้งให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาในเรื่องจิตเวชของพลทหาร จะต้องประเมินเพื่อให้ได้ข้อมูลถึงสภาพการป่วยของพลทหารเพื่อที่จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ในส่วนของโรงนอนทหารให้มีระบบการถ่ายเทของอากาศในโรงนอน ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพของพลทหาร เพื่อให้ผู้ปกครองหรือญาติของทหารใหม่ได้คลายความกังวลจากการที่บุตรหลานเข้ามารับราชการทหาร และให้หน่วยฝึกมีการจัดระบบให้ติดต่อกับทางบ้านและครอบครัวอย่างเหมาะสม
