“กัสตูรี มะโกตา” แกนนำพูโล และ “อาบูฮาเฟส อัล-ฮากิม” ในนามมาราปาตานี ประณามมือก่อเหตุคาร์บอมบ์ที่ห้างบิ๊กซีปัตตานี
วันนี้ (11 พ.ค.) จากเหตุคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซีเซ็นเตอร์ สาขาปัตตานี จนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของห้างฯ ได้รับความเสียหาย และประชาชนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากถึง 61 คน สาหัส 4 คน และพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี และโรงพยาบาล ม.อ.หาดใหญ่ ทำให้ทุกฝ่ายเริ่มไม่พอใจต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ เพราะเป้าหมายเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ เด็ก และสตรีจำนวนมาก ซึ่งสถานที่ก่อเหตุเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีประชาชนเข้ามาเดินซื้อสินค้า และนิยมพาครอบครัวมารับประทานอาหาร เพราะมั่นใจในความปลอดภัย
ล่าสุด นายกัสตูรี มะโกตา แกนนำพูโล (PULO) ได้แสดงความเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่ห้างบิ๊กซีปัตตานีนั้น ในนามส่วนตัวไม่เห็นด้วยต่อการกระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเรียกร้องให้เลิกการกระทำลักษณะรุกราน หรือรังแกคนต่างเชื้อชาติ และไม่ใช่มุสลิม ตรงกันข้ามการเคลื่อนไหวความเป็นชาตินิยมอาจนำไปสู่ความล้มเหลวกับตัวมันเสียเอง เราต้องตระหนัก และต้องจดจำไว้การต่อสู้ของเราเป้าหมายมาจากประชาชน และเพื่อประชาชน เราควรสนับสนุนพวกเขา ไฉนพวกเขาจะสนับสนุนเราในเมื่อเราไปกระทำนอกเหนือผลประโยชน์ของพวกเขา ซ้ำยังสร้างความเดือดร้อนให้แก่พวกเขา
ในนามส่วนตัว และครอบครัวสมาชิกกลุ่มพูโล (PULO) ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราทุกคนต่างเห็นใจกับเหยื่อทั้งชายหญิง และเด็กเล็กๆ จึงขอภาวนาต่อพระเจ้าขอให้ทรงประทานความสะดวกให้ท่านทั้งหลาย สิ่งที่เกิดขึ้นเห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า รัฐบาลไทยไม่สามารถคุ้มครอง และให้หลักประกันในชีวิต ทรัพย์สินของประชาชนชาวมลายูปัตตานี ถึงเวลาแล้วจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลไทยคืนอำนาจให้ประชาชนชี้ชะตาอนาคตของตัวเอง
ทางด้าน อาบูฮาเฟส อัล-ฮากิม ในนามมาราปาตานี ได้แสดงความเห็นว่า เราไม่อาจจะยกโทษให้แก่การละเมิดความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะได้ เราขอประณามการกระทำใดๆ ก็ตามด้วยความขลาด อันมีผลโดยตรงต่อการบาดเจ็บ ล้มตายของพลเรือน และมีผลต่อผู้ที่ไม่ได้เป็นนักรบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้หญิง และเด็ก ผู้ก่อเหตุจะต้องถูกนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม เราขอแสดงรู้สึกเห็นใจ และแสดงความเสียใจอย่างลึกซึ้งต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ประชาชนชาวปาตานีทุกชาติพันธุ์ และทุกศาสนา
Manageronline