วัดกำลังคู่ชิง นายกอบจ.นครศรีฯ ‘นายกฯต้อย’ค่ายฟ้า-‘น้ำ-วาริน’ค่ายน้ำเงิน

301

“น้ำ-วาริน ชิณวงค์” พร้อมลงชิงเก้าอี้นายกฯอบจ.นครศรีฯจาก“เจ้ต้อย-กนกพร เดชเดโช”ที่ชิงลาออกในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ วัดบารมี “โกเกี๊ยะ” ลุยบ้านใหญ่

ชัยชนะของ ผู้ใหญ่แบงค์-สีหราช สรรพกุล ในการเลือกตั้งนายกอบจ.ระนอง อาจทำให้ นายกฯต้อย กนกพร อาจจะกังวล ในกระแสของพรรคสีน้ำเงิน และเป็นเงิาทะมึนอยู่เบื้องหลัง ‘น้ำ-วาริน ชิณวงค์’ ที่จะลงชิงชัย

นายกฯต้อย กนกพร เดชเดโช ตัดสินใจลาออกจากนายกฯอบจ.นครศรีธรรมราช ก่อนหมดวาระในวันที่ 19 ธันวาคม โดยยกเหตุผลเรื่องความยุ่งยากในการปฏิบัติหน้าตามช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในสถานการณ์ที่คาดการณ์ว่า อาจจะมีอุทกภัยในช่วงปลายพฤศจิกายน ต้นธันวาคม กับกรอบเวลา 180 กับข้อห้ามใช้งบประมาณ ด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งกริ่งเกรงว่า จะใช้งบประมาณเพื่อการหาเสียง

เหตุผลเดียวกับ “บิ๊กแจ๊ส-คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง”นายกฯอบจ.ปทุมธานี เคยนำทีมนายกฯอบจ.โซนภาคกลาง 3-4 จังหวัดลาออกก่อนหมดวาระมาแล้ว แต่อีกเหตุผลหนึ่งชิงลาออกในชณะทมี่คู่แข่งยังไม่พร้อมเต็ม 100 ทำให้ในการเลือกตั้ง พรรคสีส้มไม่พร้อมส่งผู้สมัครลงชิงชัย

เหตุผลของการลาออกก่อนหมดวาระของนายกฯต้อย ซึ่งถ้าพิจารณาตามเนืัอผ้า และปรากฏการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก็เป็นเหตุผลที่รับฟังได้

“ซึ่งจะเป็นอุปสรรคของการบริหารจัดการในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช อาจส่งผลให้การทำงานแก้ไขปัญหาประชาชนหยุดชะงัก ขาดประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการรับมือกับภัยพิบัติธรรมชาติช่วงประมาณเดือนธันวาคมของทุกปี ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดขึ้น และมีความรุนแรงมากขึ้น ตามภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ดังที่ปรากฎอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ในขณะนี้ กรณีดังกล่าวจำเป็นต้องมีอำนาจในการบริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ทั้งทางด้านการบริหารงบประมาณ การบริหารบุคคล รวมถึงการประสานเชื่อมโยงกับภาคส่วนต่างๆ”

สำหรับทีมพลังเมืองนคร ของเจ้ต้อย ถือว่า เตรียมความพร้อมมายาวนาน เดินสายพบปะแกนนำในแต่ละอำเภอมาครบทั้ง 23 อำเภอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกฯอบต. ส.อบต. พร้อมจัดทีมผู้สมัคร ส.อบจ.ไว้ครบถ้วนหมดแล้ว

เอาเป็นว่า เครือข่ายพร้อม ปัจจัยพร้อม เดินหน้าลุยต่อได้ทันที

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการลาออกของนายกฯต้อยมีเหตุผลทางการเมืองประกอบด้วย “ชิงการได้เปรียบทางการเมือง” ได้เปรียบกับการเป็นฝ่ายบริหารมาจะครบ 4 ปี แน่นอนว่า ผลงานเริ่มเป็นที่ประจักษ์ชัด ทึมงาน เครือข่ายพร้อม กระสุนดินดำลื่นไหล

ในขณะที่คู่แข่ง ได้เห็นความพยายามของพรรคภูมิใจไทย ที่ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีแรงงาน หัวเรี่ยวหัวแรงของภาคใต้ เรียกประชุมทีมงานนครศรีธรรมราชมาแล้ว สั่งการให้เตรียมพร้อมเลือกตั้ง อบจ.และเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช และเคาะชื่อ “น้ำ-วาริน ชิณวงค์”อดีตประธานหอการค้านครศรีธรรมราช และกรรมการหอการค้าไทย อดีตนักศึกษากิจกรรม เคยเป็นนายกสโมสรนักศึกษาสมัยเรียนระดับมหาวิทยาลัย เป็นคู่ชิงชัย

เมื่อพิจารณาตามความพร้อม พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.นครศรีธรรมราช 2 คน และมีโครงข่ายที่ถูกสร้างในช่วง 2 ปีมานี้อยู่ไม่น้อย แต่โอกาสของภูมิใจไทยในนครศรีฯ คิดว่ายังเหนื่อยในการต่อกับกับเจ้ต้อย ที่ยังมี “แทน-ชัยชนะ เดชเดโช” ลูกๆ และ สส.ในสังกัดอีก 6-7 คน

การตัดสินใจลาออกของนายกฯต้อย น่าจะเป็นยุทธวิธีทางการเมือง 1.หลีกเลี่ยงการกระทำผิดเรื่องการใช้งบประมาณตามกรอบเวลาในช่วง 180 วัน ก่อนวันครบวาระ
2.หลีกเลี่ยง ค่าใช้จ่ายในการหาเสียงที่เกิดขึ้นในระยะ 180 วันก่อนครบวาระ
3. น่าจะหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ จาก ผู้ตรวจการเลือกตั้ง (ผตล .) เพราะ กกต. ยังไม่ได้ตั้ง ผู้ตรวจการเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่กับการเลือกตั้งเหตุอื่นๆ ที่ไม่ใช่ครบวาระ
4.ที่สำคัญเมื่อลาออกทำให้การเลือกตั้งนายกฯกับฝ่ายสภา (ส.อบจ.)เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน วาระของ ส.อบจ.จะหมดปลายเดือนธันวาคม ถ้าได้เป็นนายก อบจ. อยู่แล้ว หาทีมเข้าสังกัดได้ง่าย มีตัวเลือกเสนอตัวเยอะ ค่าใช้จ่ายไม่เยอะ

กนกพร ยืนยันหลายต่อหลายครั้งว่า จะขอลงสมัครชิงนายกฯอบจ.นครศรีธรรมราชอีก 1 สมัย ถ้าได้รับเลือกก็จะเป็นสมัยที่ 2 หลังจากนั้นก็ต้องหยุดพักตามกฎหมาย

“น้ำ”ลั่นพร้อมลงชิง

“น้ำมีความพร้อม ไม่มีพันธะอะไร ต้องรับผิดชอบมากมาย” คำพูดแรกของ “วาริน ชิณวงค์” ในการตัดสินใจลงชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (นายกฯอบจ.)

น้ำพร้อมทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ และประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจ และมีตัวช่วยอย่าง “พิพัฒน์ รัชกิจประการ -อนุทิน ชาญวีระกูล -เนวิน ชิดชอบ” บารมีของบุคคลเหล่านี้น่าจะหว่านล้อมผู้มากบารมีในนครศรีธรรมราช ให้มาช่วยดันน้ำได้ไม่น้อย และอาจจะทำให้ทีมเจ้ต้อยหวั่นไหวไปบ้างไม่มากก็น้อย
14-18 ตุลาคม เปิดรับสมัคร และหย่อนบัตรวัดดวงกันวันที่ 24 พฤศจิกายน วันชี้ชะตาประชาชนจะมอบความไว้วางใจให้ใครมาบริหารเมืองใหญ่ “นครศรีธรรมราช”