น่าละอาย! อังคนา แฉมีโทรล็อบบี้ทิ้งประธานกมธ.พัฒนาการเมือง

79

อังคณา ออกมาแฉ มีคนโทรให้ถอนตัว ชิงเก้าอี้ประธานกมธ.พัฒนาการเมืองฯ ซัด เป็นการกระทำน่าละอาย ถึงได้ตำแหน่งก็ไม่สง่างาม

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 24 ก.ย. 2567 ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สว. ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอตัวสมัครเป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ว่า กมธ.ชุดดังกล่าวเป็นการควบรวมของกมธ. 2 คณะ

ส่วนตัวได้มีการเสนอตัวเองว่าเรามีความสามารถที่จะทำงานตรงนี้ แสดงเจตจำนงว่าตนมีความสามารถที่จะทำงานได้ในฐานะประธานกมธ. และหากพิจารณาตามความรู้ความสามารถและประสบการณ์ การเลือกประธานกมธ.ไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นการพิจารณาเพื่อให้คนที่มีความเหมาะสมเข้ามาทำงาน เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก แต่ถ้าหากใช้วิธีการอื่น ตนก็หนักใจ

“ส่วนตัวก็มีกรรมการในคณะโทรมาบอกว่าให้ถอนตัว เพื่อนบางคนก็ถูกประกบให้ไปเลือกคนอื่น ถือว่าเป็นการกระทำที่น่าละอาย สมาชิกวุฒิสภาทุกท่านไม่ควรอย่างยิ่งที่จะทำแบบนี้ ดิฉันอยากเห็นการพิจารณาอย่างรอบคอบเป็นธรรม โปร่งใส โดยไม่มีวิธีการอื่นที่เป็นการกระทำที่น่าละอาย เป็นการกดดัน ให้ใครคนใดคนหนึ่งต้องจำยอมและถอนตัว ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดิฉันกังวล” นางอังคณากล่าว

นางอังคณา กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวจะได้หรือไม่ได้ ก็ไม่ได้จะเป็นจะตาย ไม่ว่าจะอย่างไรเราทำงานอยู่ ฉะนั้น ถ้าได้ก็ทำงาน ไม่ได้ก็ทำงาน แต่การที่จะได้มาก็ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ควรพิจารณาตามคุณสมบัติความเหมาะสมและความสามารถ

เมื่อถามถึงภาพลักษณ์ที่ออกไปดูไม่ดี ซึ่งอาจมองว่ามีการแย่งตำแหน่งประธานกมธ.กันนั้น นางอังคณา กล่าวว่า สว.บางคนบอกว่าไม่มีพวก ไม่มีกลุ่ม ไม่มีเสียงข้างมากข้างน้อย แต่ในทางปฏิบัติความเป็นจริงปฏิเสธไม่ได้ ส่วนตัวเป็นคนกลุ่มน้อย ไม่ใช่พวกเขาก็เป็นคนอื่น เราถูกมองแบบนี้มาโดยตลอด อยากให้คุยกันแบบตรงไปตรงมาดีกว่า

เมื่อถามถึงการบล็อกโหวตในชั้นกมธ. อาจนำไปสู่การบล็อกโหวตอีกหลายครั้งในอนาคตหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ถ้าเราจะใช้ระบบคุณธรรมในการพิจารณาทำงาน ความโปร่งใสก็ต้องตรวจสอบได้ ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์สุจริต

ที่สำคัญมาก คือ ประมวลจริยธรรมข้อหนึ่งขององค์กรอิสระและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเขียนไว้ว่า “คนที่จะปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรอิสระหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องทำงานด้วยความกล้าหาญไม่หวั่นเกรงต่ออิทธิพลใดๆ”

ทั้งนี้ ส่วนตัวทำงานอย่างตรงไปตรงมา และไม่สบายใจอย่างยิ่งกับวิธีการใดๆ ที่พยายามจะกดดัน ไม่ว่าจะเป็นตนที่โดนหรือคนอื่นที่โดน การกระทำแบบนี้ถึงแม้จะได้เป็นประธานกมธ.ก็ไม่สง่างาม

.