สหภาพยุโรปและประเทศมุสลิมร่วมประชุมเพื่อยุติสงครามในกาซา ยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ที่กรุงมาดริด สเปน วันที่ 13 ก.ย. 67 สำนักข่าวอาหรับนิวส์รายงานว่า ประเทศสเปนได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและประเทศมุสลิมหลายประเทศเพื่อร่วมกันหาทางยุติสงครามในกาซาและกำหนดกรอบเวลาทึ่ชัดเจนในการสถาปนา “การมี 2 รัฐ” เพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างอิสราเลและปาเลสไตน์
บุคคลสำคัญที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เช่น รัฐมนตรีต่างประเทศของนอรเวย์ สโลวีเนียร์ ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป นายโจเซฟ บอร์เรลล์ นายกรัฐมนตรีปาเลสไตน์ นายมูฮัมหมัด มุสตอฟา รัฐมนตรีต่างประเทศของอียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ จอร์แดน อินโดนีเซีย ไนจีเรีย และตุรเคีย
นายโฮเซ เอมานูเอล อัลบาเรส รัฐมนตรีต่างประเทศของสเปนซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ได้กล่าวว่า “ผู้ร่วมประชุมทุกคนมีความตั้งใจชัดเจนที่จะผลักดันจากคำพูดเรื่องการมี 2 รัฐ ไปสู่การปฏิบัติจริงและมีกำหนดเวลาที่ชัดเจนรวมทั้งการให้รัฐบาลปาเลสไตน์มีสมาชิกภาพในองค์การสหประชาชาติอย่างสมบูรณ์ (เพื่อมีสิทธิในการลงคะแนนเสียงในประเด็นต่าง ๆ ของที่ประชุมสหประชาชาติ)
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่แผ่นมา ประเทศสเปน นอร์เวย์ และไอร์แลนด์ได้ให้การยอมรับรัฐบาลปาเลสไตน์ในการปกครองพื้นที่ทั้งในส่วนของฉนวนกาซาและในเขตเวสต์แบงค์โดยมีเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงและปัจจุบันมีประเทศต่าง ๆ 146 ประเทศ จาก 193 ประเทศที่เป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติได้ให้การยอมรับในเรื่องนี้
นายกรัฐมนตรีของสเปน นายเปโดร ซันเชซ ได้กล่าวย้ำอยู่เสมอว่า การอยู่ร่วมกันของ 2 รัฐ ทึ่มีบูรณภาพแห่งดินแดนของตนเท่านั้นที่จะทำให้เกิดสันติสุขในภูมิภาคนี้ได้
อนึ่ง ข้อกำหนดเรื่องการมี 2 รัฐ (อิสราเอลและปาเลสไตน์) ได้เป็นมติมาแล้วทั้งการประชุมที่กรุงมาดริด ในปี 1999 (พ.ศ. 2542) และในการประชุมสร้างสนธิสัญญาออสโล ในปี 1993-95 (2546-48)
สำหรับพื้นที่ในเขตเวสต์แบงค์และเยรูซาเล็มตะวันออกได้ถูกกองทัพอิสราเอล (ภายใต้การสนับสนุนของอเมริกา) บุกยึดไปตั้งแต่ช่วงสงคราม 6 วันในปี พ.ศ. 2510 และต่อมาในปี พ.ศ. 2523 อิสราเอลได้ประกาศว่าเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตนแต่นานาชาติไม่ยอมรับการกล่าวอ้างดังกล่าวนี้ แต่อิสราเอลก็ยังคงยึดครองอยู่และมีการขยายพื้นที่นิคมชาวยิวเข้าไปในส่วนพื้นที่ของชาวปาเลสไตน์และทำร้ายชาวปาเลสไตน์มาจนกระทั่งทุกวันนี้
https://www.arabnews.com/node/2571247/world