“อลงกรณ์”ชี้ การเข้าร่วมรบ.ของปชป. จะยุติความขัดแย้ง อย่าให้กลับมาซ้ำรอยเดิม

“อลงกรณ์” ชี้การเข้าร่วมรัฐบาลผสมข้ามขั้วของ พรรคประชาธิปัตย์ คือ การยุติ2ทศวรรษแห่งความขัดแย้งแตกแยกของประเทศ หวังว่า ทุกฝ่ายจะเรียนรู้ความผิดพลาด อย่าให้ประวัติศาสตร์กลับมาซ้ำรอยเดิมอีก

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)แล ะอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โพสต์ข้อความที่น่าสนใจเป็นมุมมองใหม่ทางการเมืองในเฟสบุ๊คส่วนตัววันนี้ (30 ส.ค.67) เกี่ยวกับประเด็นการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์มีข้อความดังต่อไปนี้

“มติการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์คือกุญแจดอกสุดท้ายที่เปิดอนาคตใหม่ให้กับประเทศ เพราะเป็นการยุติการต่อสู้ทางการเมืองที่ร้ายแรงที่สุด รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่กินเวลายาวนานถึง 20ปี เป็น 2 ทศวรรษแห่งความขัดแย้งที่ต่อสู้กันทั้งในและนอกสภาฯ แบ่งแยกประชาชนเป็นฝักฝ่ายนำไปสู่การสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ ระหว่างเดือนตุลาคมปี 2551-พฤษภาคม 2553 ล้มตายกว่า 100 คนและบาดเจ็บเกือบ 3 พันคนมีการรัฐประหารสูญเสียประชาธิปไตยถึง 2 ครั้งในปี 2549 และปี 2557

นับเป็นบาดแผลความขัดแย้งที่กว้างและลึกที่แม้แต่รัฐบาลในอดีตไม่ว่ารัฐบาล “อภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์-พล.อ.ประยุทธ์” จะพยายามสร้างความสมานฉันท์ปรองดองก็ไม่ประสบความสำเร็จและไม่มีใครตอบได้ว่าความขัดแย้งแตกแยกดังกล่าวจะสิ้นสุดลงเมื่อใด จนกระทั่งเมื่อมีการร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (พล.อ.ประยุทธ์)และ พรรคพลังประชารัฐ(พล.อ.ประวิตร) ภายหลังการเลือกตั้งปี 2566 ซึ่งถือเป็นกุญแจดอกแรกที่เปิดประตูความร่วมมือข้ามขั้วระหว่าง2ฝ่ายเพื่อยุติความขัดแย้ง

ก่อนที่กุญแจดอกสุดท้ายจะเกิดขึ้นเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลผสมข้ามขั้วเมื่อวานนี้(29 ส.ค.) เป็นการสิ้นสุดอดีตที่ขมขื่นและเริ่มต้นวันใหม่ของประเทศ

ผมได้แต่หวังว่า ทุกฝ่ายจะเรียนรู้ความผิดพลาดทางการเมืองในอดีตอย่าให้ประวัติศาสตร์กลับมาซ้ำรอยเดิม การยึดมั่นระบบรัฐสภาภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขการยึดถือหลักนิติรัฐนิติธรรมความซื่อสัตย์สุจริตและการยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้งคือแนวทางที่ประเทศและการเมืองไทยจะก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและมีอนาคต “