นายกฯชายอย่าคุย ต้องยอมรับว่า แจ้งเกิดสนาม สส.ในนามประชาธิปัตย์

เดชอิศม์ ขาวทอง เดิมชื่อ วรวิทย์ ขาวทอง อดีตนายกฯอบจ.สงขลา ชื่อเล่นว่าชาย คนสงขลาจึงมักจะเรียกว่า “นายกฯชาย”

นายกฯชายพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่นหลายครั้ง จนเกือบจะหมดอนาคตทางการเมือง ผันมาลงสนามใหญ่ก็พ่ายแพ้

การที่นายกฯชายให้สัมภาษณ์ว่า พรรค ประชาธิปัตย์ ก่อตั้งมา 78 ปี ไม่เคยชนะพรรคเพื่อไทย แต่นายกฯชาย อาจจะลืมไปว่าตนเองเคยลงสมัคร สส. ไม่เคยชนะพรรคประชาธิปัตย์เลยในอดีต

“การที่เป็น สส.มา 2 สมัยได้ก็เพราะลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ หลังการเสีนชีวิต ของนายประพร เอกอุรุ สส. เขต 5 พรรคประชาธิปัตย์ ถ้าหากไม่ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ นายเดชอิศม์ หรือ นายกฯชายก็ไม่มีทางได้เป็น สส.”

หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น นายกฯชาย ก็ลงสมัคร สส.ในนามพรรคไทยรักไทย แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับ ประพร เอกอุรุ จากพรรคประชาธิปัตย์ มาโดยตลอด จนเมื่อ “ประพร” จากไป นายกฯชายมาลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2562 จึงได้รับเลือกตั้งเป็น สส.สมัยแรกในนามพรรคประชาธิปัตย์ และ เลือกตั้งปี 2566 ก็ได้รับเลือกตั้งมาเป็นสมัยที่สอง

หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้ง นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ รับผิดชอบด้วยการลาออกจากหัวหน้าพรรค นายกฯชายคิดการใหญ่ สมคบคิดกับ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” อดีตเลขาธิการพรรค ที่ประกาศไปในช่วงหาเสียงว่า ถ้าประชาธิปัตย์ ได้ สส.น้อยกว่าเดิม (52 เสียง) จะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต ด้วยการตั้งทีมชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยวางตัวให้นายกฯชายเป็นเลขาธิการพรรค

ผลการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนั้น เข้าเป้าด้วย money politics เฉลิมชัย เป็นหัวหน้าพรรค นายกฯชาย เป็นเลขาธิการพรรค นำมาซึ่งความขัดแย้งแตกแยกอีกครั้งของพลพรรคประชาธิปัตย์

มาครั้งครานี้ คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของ “เฉลิมชัย-นายกฯชาย” และคณะมีมติเอกฉันท์นำพาพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาล ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ มี แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

โดยมีชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สรรเพชญ บุญญามณี เป็นฝ่ายคัดค้านอย่างแข็งขัน

เป็นที่รับทราบกันในวงกว้างว่าประชาธิปัตย์ ต่อสู้กับ “ระบอบทักษิณ” มายาวนาน พูดได้ว่าเป็นคนละขั้ว เป็น “มุมแดง-มุมน้ำเงิน” ยืนแลกหมัดกันมาตลอด อุดมการณ์ แตกต่างกันชัดเจน แต่ สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กลับแถลงว่า อุดมการณ์ไม่แตกต่างทำงานร่วมกันได้การนำพาพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลแบบข้ามขั้ว ไม่ต้องรอพิสูจน์ผลงาน ถ้าติดตามข่าว ติดตามโลกโซเชี่ยล ก็จะรับรู้ได้แล้วว่า อนาคตประชาธิปัตย์จะเป็นอย่างไร

คนใต้มีคลิปตำหนิการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรคออกมามากมาย อย่างชนิดไม่เคยมีมาก่อน ในทางกลับกันมีกระแสให้กำลังใจ “นายชวน” มากมาย แม้จะมีบางกระแสออกมาบ้างว่า คนแก่ไม่ปล่อยวาง แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อย

เชื่อว่า ถ้านายชวน และผู้อาวุโสยังยืนหยัดในแนวทางอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ ก็จะเป็นเสาหลักค้ำยันสถาบันทางการเมืองชื่อ “ประชาธิปัตย์ “ไว้ได้ ท่ามกลางพายุคลื่นลมแรงขณะที่ นายขยัน วิพรหมชัย อดีตสส.จังหวัดลำพูน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ออกมาวิงวอน ขอร้องสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ให้อยู่กับพรรค อย่าเพิ่งลาออกพรรคไม่มีอะไรเสียหาย เป็นเรื่องของบุคคล ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยที่กรรมการบริหารพรรค ที่นำพาพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมรัฐบาล แต่ก็จะไม่ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผมรักและศรัทธา จึงขอวิงวอนไปยังสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้โปรดช่วยรักษาพรรคไว้ อีกไม่นานกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ก็ต้องไป อดีตที่ผ่านมาเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์โดยส่วนใหญ่จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไป

#นายหัวไทร #ทำเฒ่าเรื่องเพื่อน #ประชาธิปัตย์