“วัชระ” ร้องอธิบดีอัยการศาลฯ ถาม ฎีกาคดี ”เอกนัฏ” หรือไม่ เป็น รมต.ได้จริงหรือ!

“วัชระ เพชรทอง” ยื่นอธิบดีอัยการศาลสูง ถามตรงๆ ฎีกาคดี “เอกนัฏ พร้อมพันธ์” หรือไม่ ย้อนคดีชาวบ้านปิดหน่วยเลือกตั้ง ทำไมอัยการจึงฎีกาถึงติดคุก

วันที่ 27 สิงหาคม 2567 นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายพิชัย ศรีจำนอง อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงเรื่องคดี กปปส. คดีหมายเลขดำ อ.๒๔๗/๒๕๖๑ หมายเลขแดง อ.๓๑๗/๒๕๖๔ ว่ามีคำสั่งฎีกาต่อศาลฎีกาหรือไม่

โดยนายวัชระ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า “ตามที่คดี กปปส. คดีหมายเลขดำ อ.๒๔๗/๒๕๖๑ หมายเลขแดง อ.๓๑๗/๒๕๖๔ ศาลอาญา ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ จำเลยที่ ๙ จำคุก ๑ ปี โดยรอลงอาญาและโทษปรับเงิน ๑๓,๓๓๓ บาท ได้ประกันตัวต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับยกฟ้องนั้น และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อดีตข้าราชการตุลาการเสนอชื่อนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เนื่องจากอ้างว่าไม่มีคดีความติดตัวและนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ฝ่ายกฎหมายและสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ อ้างว่าศาลอุทธรณ์ยกฟ้องแล้ว ปรากฏรายละเอียดตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวไปแล้วนั้นทั้งนี้เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสาธารณชนอย่างยิ่ง ข้าพเจ้านายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ จึงขอทราบข้อเท็จจริงว่ามีการยื่นฎีกา จำเลยที่ ๙ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ และจำเลยอื่น ๆ ในคดีนี้ต่อศาลฎีกาหรือไม่ เนื่องจากตามระเบียบการดำเนินคดีอาญาของสำนักงานอัยการสูงสุด ถ้าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาแตกต่างกัน กล่าวคือ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง อัยการต้องฎีกาเพื่อให้ศาลฎีกาตัดสินชี้ขาด ดังนั้นคดีนี้จึงยังไม่ถึงที่สุด ถ้าไม่มีการฎีกาต่อศาลสูงเพราะเหตุใด และเหตุใดคดี กปปส. ปิดหน่วยเลือกตั้ง อัยการฎีกาถึงศาลฎีกาและพิพากษาจำคุกจำนวนหลายคน หลายจังหวัด” นายวัชระ กล่าวทิ้งท้าย