แห่แชร์คลิป”ตุลาการ” เย้ยยุบ “ก้าวไกล” “ธงทอง-ปริญญา” ชี้มีอคติ ไม่เป็นกลาง

15

แห่แชร์คลิป อ้างตุลาการศาลรธน. ทวงบุญคุณ พรรคประชาชน ไม่ถูกยุบไม่รวย 20 ล้าน ลั่นไม่เห็นเดือดร้อน ร้องไห้อยู่ 2 วัน เปิดใหม่ยักไหล่แล้วไปต่อ “ธงทอง” ติงแรง “ตุลาการ-ผู้พิพากษา” ต้องไม่มีอคติ “ปริญญา” จี้ตรวจสอบจริยธรรม ต้องคำนึงถึงศักดิ์ความเป็นมนุษย์

วันที่ 21 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ได้แชร์คลิปวิดีโอของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกับข้อความอ้างว่า เป็นคลิปการบรรยายของ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บรรยายเรื่องศาลรัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ดังกล่าวระบุข้อความอ้างว่า “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แซว พรรคประชาชนต้องขอบคุณผม ทำให้ได้เงินบริจาคหลายล้าน “ยักไหล่แล้วไปต่อ” ได้เงินถึง 20 ล้าน”

“ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ท่านอุดม พูดติดตลกว่า พรรคประชาชนต้องขอบคุณเขาที่ทำให้พรรคได้เงินบริจาคเพิ่ม โดยกล่าวในงานเสวนาว่า “เหมือนอย่างวันนี้ เขายังมีปัญหาอยู่ พรรคคุณไม่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ ไปรับเงิน คุณออกในนาม พรรคประชาชน ซึ่งคุณยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ ทำได้เปล่า? กำลังมีปัญหาอยู่ เขาบอก ผมใช้บัญชีเดิม เขาก็ต้องตรวจสอบ คุณใช้บัญชีเดิมจริงหรือเปล่า? หรือคุณเปิดบัญชีใหม่”

จริงๆ ต้องขอบคุณผมนะ มีการยุบพรรคเขา เห็นไหมครับ เขาได้เงินตั้งกี่ล้านน่ะ ภายในสองวัน ถ้าไม่ยุบเนี่ย เขาร้องไห้ฟรีเลยนะ ก่อนหน้านั้นน่ะ เงินไม่มีนะ ต้องขอบคุณผมนะทำให้เขามีเงินเข้าไปตั้ง 20, 30 ล้าน ใช่มะ สมาชิกเก่าเข้าไปจดทะเบียนเป็นสมาชิกตามไปด้วยเห็นไหม ก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนตรงไหนเลย

“ยุบปั๊ป เอ้าไปเปิดพรรคใหม่ได้ เอ้า ไม่ข้องใจแล้วหรือ? เมื่อวานร้องไห้อยู่ พรรคเราจะไปแล้ว อย่างนู้นอย่างนี้ โอ้ สองวันเลิก จากน้ำตาเป็นเสียงหัวเราะ “ยักไหล่แล้วไปต่อ” เงิน 20 ล้าน (หัวเราะ)”

ขณะที่ นายธงทอง จันทรางศุ อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า แต่โบราณมาท่านเตือนไว้นักหนาว่า นักกฎหมายต้องระมัดระวัง ไม่ทำงานด้วยอคติ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเป็นผู้พิพากษาตุลาการ เมื่อตัดสินคดีความอย่างไรไปแล้ว ก็ต้องวางใจเป็นอุเบกขา เพื่อเป็นเครื่องยืนยันบอกกับตัวเองได้ว่า ได้ตัดสินคดีแล้วโดยปราศจากความลำเอียง หากไม่ได้ทำเช่นนั้น แต่ทำตรงกันข้าม ก็ชวนให้คนสงสัยว่า การพิพากษาอรรถคดีที่ผ่านมาได้กระทำโดยปราศจากอคติจริงหรือ ?เช่นเดียวกับ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล นักวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค Prinya Thaewanarumitkul เพื่อแสดงความเห็นต่อการแสดงความเห็นของนายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่วิจารณ์ต่อกรณีการยุบพรรคก้าวไกลที่ทำให้พรรคประชาชนได้เงินบริจาคจำนวนมาก ว่า ว่า ฐานะอาจารย์สอนกฎหมายตนฟังแล้วไม่สบายใจ เพราะไม่เคยได้ยินว่ามีตุลาการหรือผู้พิพากษาท่านใด ตัดสินลงโทษจำเลยไปแล้วมาพูดถึงจำเลยในแบบที่อาจจะเข้าข่ายเป็นการส่อเสียดมาก่อน และที่สำคัญไม่ทราบว่าเป็นไปตามมาตรฐานจริยธรรมข้อ 13 และ 23 ในเรื่อง ปราศจากอคติ คำนึงสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และอาจจะรวมถึงเรื่อง เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือไม่

“ด้วยความเคารพ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จำเป็นต้องกล่าวถึง เพราะเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 กำหนดมาให้เป็นมาตรฐานจริยธรรมของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระเป็นหลัก ศาลรัฐธรรมนูญจึงพึงต้องยึดถือปฏิบัติด้วย มาตรฐานจริยธรรม” นายปริญญา ระบุ

นายปริญญา ระบุด้วยว่าสำหรับมาตรฐานจริยธรรมนั้น มี 2 ข้อที่เห็นว่าสำคัญที่สุดในการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ คีอ ข้อ 13 ว่าด้วยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติ โดยคํานึงถึงสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ทั้งนี้ ตามความเหมาะสมแห่งสถานภาพ และ มาตร23 ปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความเต็มใจ ให้บริการด้วยความรวดเร็ว เสมอภาค ถูกต้อง โปร่งใส ปราศจากอคติ และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์.