“อดีตอสส.” ย้ำ “ที่ธรณีสงฆ์” ผู้ใดจะเข้า “ยึดครอง” หรือ “โอนกรรมสิทธิ์” ไม่ได้

เคลียร์ชัดๆ! “ตระกูล วินิจฉัยภาค” อดีตอัยการสูงสุด ย้ำ “ที่ธรณีสงฆ์” ผู้ใดจะเข้ายึดครองหรือจะโอนกรรมสิทธิ์​ไม่ได้ เว้นแต่การเวนคืนเพื่อประโยชน์สาธารณะ

วันที่ 21 สิงหาคม 2567 จากกรณีมีการรื้อฟื้นการซื้อขายที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ของนางเนื่อม ชํานาญชาติศักดา ที่ได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้น

ล่าสุด นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด(อสส.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวว่า…

ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์

#ที่ธรณีสงฆ์ ที่ผู้มีจิตศรัทธา​ยกที่ดินให้วัด​

ที่ดินย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์​ของ​วัด

ผู้ใดจะเข้ายึดครองหรือจะโอนกรรมสิทธิ์​ในที่ดินให้ผู้ใดไม่ได้​

เว้นแต่การเวนคืนเพื่อประโยชน์สาธารณะ​

#คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๖๒/๒๔๙๗

ที่ธรณีสงฆ์นั้น ใครจะครอบครองมาช้านานเท่าใด ก็แย่งกรรมสิทธิ์ไม่ได้

#กฎหมายวันละนิดจิตแจ่มใส

พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.121 มาตรา 6 บัญญัติว่า

” ที่วัด และ ที่ขึ้นวัดนั้น จำแนกตามพระราชบัญญัตินี้เป็น 3 อย่าง คือ

1. ที่วัดนั้น คือ ที่ซึ่งตั้งวัดจนตลอดเขตวัดนั้น เรียกว่า ที่วัด มีวิสุงคามบอกเขตแดน

2. ที่ธรณีสงฆ์นั้น คือ ที่แห่งใดๆ ซึ่งเป็นสมบัติของวัด

3. ที่กัลปนานั้น คือ ที่แห่งใดๆ ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินได้ทรงพระราชอุทิศเงินอากรค่าที่แห่งนั้นขึ้นวัดก็ดี หรือที่ซึ่งเจ้าของมิได้ถวายกรรมสิทธิ์อุทิศแต่ผลประโยชน์อันเกิดแต่ที่นั้น ขึ้นวัดก็ดี ที่เช่นนั้น เรียกว่า ที่กัลปนา “