“ธรรมนัส” หักดิบ “บิ๊กป้อม” ชิงส่งชื่อให้เพื่อไทยแล้ว ย้ำ สส.กลุ่มนี้เป็นรัฐบาล มั่นใจฟากบ้านป่าฯ อกหัก ย้ำถ้า พปชร. ไม่ขับออก ก็อยู่กันแบบนี้
วันที่ 20 ส.ค.2567 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย สส.พลังประชารัฐ 22 คน โดยในจำนวนนี้นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ภรรยาของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ร่วมด้วย นอกจากนี้ มีอีก 7 สส. อยู่ระหว่างเดินทางมา
โดย ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า วันนี้ไม่ใช่การแถลงข่าวตอบโต้ แต่มีพี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุขมาให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่กับตน และนายอรรถกร ศิริรยากร รัฐมนตรีช่วย เพื่อรักษาแนวร่วม เพื่อชาติบ้านเมือง เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่สำคัญตนมีเจตนารมณ์ชัดเจนว่ามีจุดยืนของตัวเองในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง และขอบคุณ สส. ซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนทุกภาค ทั้งจังหวัดกำแพงเพชร เพชรบูรณ์ ราชบุรี นราธิวาส สงขลา ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด พะเยา ชลบุรี กาฬสินธุ์ แม่ฮ่องสอน ตราด และเชียงใหม่ ซึ่งเรามีความชัดเจนว่าเราไปด้วยกัน
เมื่อถามว่าเห็น นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค มาที่กระทรวงเกษตรฯ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตน กับ นายไพบูลย์ ทำงานร่วมกันตั้งแต่ปี 2561 ให้เกียรติซึ่งกันและกัน วันนี้นายไพบูลย์มาให้กำลังใจ มาคุย และตนก็ตอบกลับไปว่า ไม่ได้ตั้งป้อมที่จะทะเลาะกับใคร แต่ขอให้มีจุดยืนเป็นของตัวเอง เพราะตนอยู่มาตั้งแต่ พปชร. ยังเป็นวุ้น สร้างพรรคมา ดูแลการเลือกตั้งในปี 2562 จนถึงวันนี้ ก็ทำดีที่สุดแล้ว
เมื่อถามถึงการส่งรายชื่อรัฐมนตรี ของ สส.กลุ่มนี้ จะเริ่มต้นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เวลานี้แกนนำรัฐบาลจะให้รัฐมนตรีที่รักษาการเป็นผู้ตัดสินใจและคุยกัน ไม่ใช่ว่าพรรคเราจะทำอะไรโดยไม่ถามแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เด็ดขาด เพราะมันเป็นมารยาท
“ขอยืนยันว่า สส.พปชร. ที่ยืนอยู่ตรงนี้จำนวน 22 คน และมีอีก 7 คนที่กำลังเดินทางมา เป็นรัฐบาลทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีตัวแทนพรรคเล็กมาร่วมด้วย” เมื่อถามย้ำว่า สส.พปชร. ที่อยู่บ้านป่ารอยต่อฯ ไม่ได้ร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปพูดอย่างนั้นเลย เราจะไม่ก้าวล่วงบุคคลภายนอกที่ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้
เมื่อถามว่า การส่งรายชื่อให้แกนนำรัฐบาลส่งในนามของอะไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในนามของกลุ่มตน สังกัดพรรคพลังประชารัฐ และเราเป็นหนึ่งเดียวกัน เพียงแต่มีบางกลุ่มที่พยายามสร้างความแตกแยก ตนในฐานะที่ สส.ส่วนใหญ่ มาขอร้องให้เป็นตัวแทนพูด ยืนยันว่าหากขณะนี้ไม่ถูกขับออกก็ยังยืนอยู่ที่เดิมก็ยังยืนอยู่ที่เดิม รัฐสภาและหากมีการประชุมที่รัฐสภา รัฐบาลไปทิศทางไหนไปทางนั้น พร้อมกันนี้ยังบอกด้วยว่า วันนี้ นายสันติ ได้ส่งภรรยามาร่วมด้วย
เมื่อถามว่ายังได้เป็นรัฐมนตรีอยู่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เอาเป็นว่าพวกเราร่วมรัฐบาล เมื่อถามว่าใครจะเป็นคนส่งรายชื่อให้พรรคเพื่อไทยพรุ่งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า พรุ่งนี้เช้าก็จะรู้ ส่วนเมื่อถามย้ำว่า ยังเป็นรัฐมนตรีเกษตรฯ ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องให้เกียรติผู้นำรัฐบาลตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ถือเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี
และเมื่อถามว่า ได้ส่งชื่อตัวเองไปใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ปฏิเสธตอบคำถาม โดยบอกเพียงว่าให้รอดูพรุ่งนี้ เดี๋ยวจะเป็นข่าวเอง ส่วนจะส่งไปชื่อเดียวหรือไม่ ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่าก่อนจะส่งรายชื่อไปได้พูดคุยกับแกนนำรัฐบาลแล้วใช่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเป็นผู้ประสานแต่เพียงผู้เดียว ร่วมกับ นายสันติ เมื่อถามว่ารายชื่อส่งแล้วพรุ่งนี้เช้าจะได้รับความชัดเจนใช่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ประมาณนั้น
เมื่อถามว่าหาก นายทักษิณ ไฟเขียวให้ไปอยู่พรรคเพื่อไทย จะไปหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะไปได้ยังไง เขายังไม่ขับออก ซึ่งในกรณีที่พรรคไม่มีการขับเคลื่อนอะไร เราก็จะอยู่เป็นกลุ่มแบบนี้ ส่วนจะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่นั้น ยืนยันว่างานในสภา ก็ไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า สส.พปชร. หลายคน รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน เมื่อถามว่า มี สส. 2 กลุ่ม ใน พปชร. กลุ่มหนึ่งได้ไปต่ออีกกลุ่มอกหักใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ประมาณนั้น
เมื่อถามว่า ที่เคยระบุว่า ตาอยู่จะเอาไปกินนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้พวกเรามากันเยอะ มาทุกจังหวัด เมื่อถามว่า หากแกนนำเพื่อไทยเลือก สส. ฝั่งบ้านป่าฯ สส.กลุ่มนี้ จะเป็นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส ตอบทันทีว่าคำถามนี้เป็นไปไม่ได้ เหมือนกำลังถามว่าปลาบินได้หรือไม่ เมื่อถามว่า โอกาสที่ 2 กลุ่มจะกลับมาร่วมกันหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อยากขอให้พูดเฉพาะเรื่องวันนี้
ที่สุด เมื่อถามว่า ได้แจ้งกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แล้วหรือไม่ ว่าพูดคุยกันจบแล้ว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ได้แจ้งกับใคร แต่คุยกับเลขาธิการคณะรัฐ และรักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกอย่างชัดเจนแล้วรอฟังผลพรุ่งนี้ ส่วนโควตายังเป็น 4 เก้าอี้เหมือนเดิมหรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกฯ