“ยุทธพร” ชี้ ภารกิจเร่งด่วน “อุ๊งอิ๊ง” คือ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ต้องกล้าตัดสินใจ

9

นักวิชาการ ม.สุโขทัย ชี้ ภารกิจเร่งด่วนของ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” คือ ต้องตัดสินใจจะเดินหน้า หรือ ยกเลิก “ดิจิทัลวอลเล็ต” ชี้ ต้องรอบคอบ รัดกุม เพราะไปสร้างความหวังให้ ปปช. รวมถึงปม แก้กฎหมาย รธน.และ นิรโทษกรรม

รศ.ยุทธพร อิสรชัย นักวิชาการคณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หลังได้รับโปรดเกล้าฯให้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่31 ของประเทศไทยว่า สิ่งที่ท้าทาย น.ส.แพทองธาร คือ 1.การสานต่อนโยบายเดิมที่ประชาชนรอความชัดเจนอยู่หลายเรื่อง เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต จะปรับแก้หรือยกเลิก 2.เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ 3.การแก้รัฐธรรมนูญและการนิรโทษกรรม สิ่งเหล่านี้จะเป็นประเด็นที่มีความท้าทายสำหรับนายกฯคนใหม่

ในเรื่องเศรษฐกิจวันนี้เป็นปัญหาใหญ่มาก ที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน จะรอดหรือจะร่วงที่น่าห่วงคือเศรษฐกิจ เช่นเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ต้องขับเคลื่อนเรื่องของเศรษฐกิจด้วยซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต้องดำเนินการต่อ

ส่วนในระยะยาวคือการฟื้นฟูความเชื่อมั่นเชื่อถือของพรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อดึงคะแนนนิยมกลับมาอีกครั้ง การที่นายกฯ เป็น น.ส.แพทองธาร ไม่ใช่นายชัยเกษม นิติสิริ เท่ากับยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยมองสู่อนาคตในระยะยาวไม่ใช่ระยะสั้นที่จะเข้ามาเพื่อยุบสภา การฟื้นฟูคือโจทย์ใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า

ครั้งนี้หลายคนอาจบอกว่าเป็นวิกฤตของเพื่อไทย แต่ส่วนตัวคิดว่าเป็นโอกาสที่จะเข้ามาดำเนินการหลายๆ เรื่อง ทั้งภาพใหญ่คือการเป็นรัฐบาลและการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ให้เกิดมรรคเกิดผล โดยเฉพาะนโยบายที่จะทำให้เศรษฐกิจระยะสั้นกระเตื้องขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นดิจิทัลวอลเล็ต หรืออย่างอื่นก็แล้วแต่ รวมทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย

โอกาสอีกด้านคือการปรับตัวของพรรคเพื่อไทย สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ปัญหาอย่างหนึ่งคือ สส.เขตรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับการตอบสนองเท่าไร เมื่อน.ส.แพทองธารเข้ามาเป็นนายกฯ ไม่ได้ขาลอยเพราะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ต้องปรับความสัมพันธ์กับสส.เขตดีขึ้น ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่อีกประการหนึ่ง และคิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะปรับครม.เล็กๆ ไปในตัวด้วยการนำสส.เขตมาเป็นฝ่ายบริหาร เป็นการสร้างความสัมพันธ์กับสส. รวมถึงเชื่อมต่อไปยังคนในพื้นที่

ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตวันนี้ เป็นเหมือนทางสองแพร่งของพรรคเพื่อไทย จะถอยก็ไม่ได้เพราะไปยกเลิกความหวังของคนที่รออยู่ซึ่งมีไม่น้อยและเปิดให้ลงทะเบียนไปแล้วก็จะถูกตั้งคำถามถึงความเชื่อมั่นเชื่อถือศรัทธาในพรรค

ขณะเดียวกัน ถ้าเดินหน้าต่อก็ต้องเดินหน้าอย่างระมัดระวังไม่ให้เสี่ยงต่อกฎหมายและข้อสงสัยต่างๆ เพราะโอกาสที่จะมีคนไปร้องต่อองค์กรต่างๆ มีมากมาย ถ้าจะเดินหน้าต่อก็คงต้องปรับเปลี่ยนให้รอบคอบและรัดกุม หากยกเลิกไปเลยคิดว่าไม่เป็นผลดีแต่ไม่แน่รัฐบาลอาจยกเลิกก็ได้ถ้ามีความเสี่ยงสูง

ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญต้องเร่งรีบอย่างยิ่งเพราะเป็นโจทย์ใหญ่ที่ส่งผลกระทบทางการเมือง ทั้งต่อนักการเมืองและทุกคนทุกพรรครวมถึงประชาชนด้วย รวมถึงผลต่อเศรษฐกิจ จึงต้องแก้รัฐธรรมนูญแต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยฉันทามติหลายฝ่ายทั้งพรรคร่วม สว.

กุญแจดอกแรกของการแก้รัฐธรรมนูญคือกฎหมายประชามติ ณ วันนี้ เข้าสู่สภาเพื่อบรรจุเป็นวาระแล้ว ดังนั้นความหวังการแก้รัฐธรรมนูญก็จะเกิดขึ้นได้ และควรทำควบคู่กันไปกับการแก้เศรษฐกิจ เพราะเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กันอยู่แล้ว.