“อนุทิน” ชี้ข่าวซื้อ “สส.งูเห่า” 30 ล้าน “พูดกันไปเรื่อย” เชื่อการเมืองจะเย็นลง ดักคอเก้าอี้ “รองปธ.สภาฯ” ใครแหกกติกาอยู่ร่วมกันไม่ได้
วันที่ 8 ส.ค.67 ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดาที่พ้นจากตำแหน่งว่า ได้รับการประสานงานจากรัฐบาลแล้ว ขออย่าพูดว่าจองตำแหน่งให้กับพรรคภูมิใจไทย แต่เป็นไปตามกติกาที่วางไว้ ใครที่แหกกติกาก็อยู่ร่วมกันไม่ได้ ส่วนใหญ่ไม่มีหรอก ยิ่งอยู่ยิ่งแน่น ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลก็แน่นแฟ้น ณ วินาทีนี้ยังไม่ได้เตรียมใครไว้เพื่อลงชิงตำแหน่งรองประธานสภา
เมื่อถามว่า หากเป็นโควต้าพรรคภูมิใจไทยก็พร้อมที่จะเสนอใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มันต้องมีการประชุม และขอหลีกเลี่ยงการใช้คำว่าโควตา ต่อรอง และคำว่าไปขอมันไม่มีหรอกเพราะเป็นไปตามกลไก
นายอนุทินยังกล่าวถึงการซื้อตัว สส.งูเห่าที่มีผู้กล่าวอ้างว่า ใช้จำนวนเงินมากถึง 20-30 ล้านบาท ว่า พูดไปเรื่อย คำว่างูเห่าคืออยู่เฉยๆ เพียงบอกว่าให้มาอยู่พรรคนี้หรือไม่ แบบนี้เรียกว่างูเห่าหรือไม่ แต่ภูมิใจไทยไม่มี เมื่อถามว่า หากราคาสูงขนาดนี้ จำเป็นต้องซื้อหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า ไม่รู้ ไม่เคยทำ และไม่คิดจะทำ
ส่วนกรณีทูตอียูและสหรัฐออกแถลงการณ์กรณียุบพรรคก้าวไกล นายอนุทินกล่าวว่า กติกามารยาท ก็เป็นกติกามารยาทอย่างหนึ่ง อะไรที่ไม่เกี่ยวกับตนขออย่ามาถาม หากเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทยและพรรคภูมิใจไทยยินดีตอบ
เมื่อถามว่าขนาดนี้พรรคภูมิใจไทยยังมีความจำเป็นต้องการ สส. เพิ่มหรือไม่ นายอนุทินชะงัก และทวนคำถามผู้สื่อข่าวอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่าเรื่องนี้ต้องมีมารยาทเข้ามาเพิ่ม พื้นที่ที่พรรคไม่เคยมี สส.มาแต่ดั้งเดิม ก็ต้องมีการแข่งขันกันระหว่างเจ้าของพื้นที่ หรือฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ดังนั้นเมื่อไม่ใช่พื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยก็ให้พรรคร่วมรัฐบาลไปสู้ ส่วนการเลือกตั้งซ่อม สส. เขต1 จ.พิษณุโลก นายอนุทินยืนยันไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตนี้สู้ พร้อมหลีกทางให้ เพราะเป็นกติกามารยาท
นายอนุทินยังระบุถึงการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลว่า เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอยู่ร่วมกันมา 1 ปีแล้ว การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ความเชื่อมั่น ความเชื่อถือ ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน มีการพูดคุยปรึกษาหารือกันตลอดเวลา ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ตัวเองรู้สึก แต่คนอื่นจะรู้สึกอย่างไรไม่ทราบ
เมื่อถามต่อว่า หลังพรรคก้าวไกลถูกยุบพรรคและพร้อมไปต่อ การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทยจะเตรียมตัวสู้ได้หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ตัวเองนั้นส่งกำลังใจให้พรรคก้าวไกลในฐานะสส. ส่งกำลังใจให้ และขอให้ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
นายอนุทิน เชื่อว่า สถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ จะเย็นลง เพราะความขัดแย้ง การต่อสู้ ความดุเดือด สาดสี วาทะกรรมต่างๆ วันนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน เพราะพูดไปก็เท่านั้น ต่างฝ่ายต่างหูทวนลม ไม่ได้ยิน ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ คนพูดก็เบื่อจะพูดไปเอง ก่อนจะบอกต่อว่า “ตัวเองถนัด เพราะที่บ้านพูดทุกวัน จนหูทวนลม ฝึกตั้งแต่ที่บ้านมาแล้ว”
ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมจะยื่นแก้กฎหมายการยุบพรรค นายอนุทิน ระบุว่า ในฐานะนักการเมือง หัวหน้าพรรคการเมือง ก็เห็นด้วย เพราะพรรคการเมืองเป็นของประชาชน ไม่ได้เป็นของกรรมการบริหารพรรค หากกรรมการบริหารคนไหนทำผิด ก็ให้ลงโทษเป็นรายคน ไม่ใช่ยุบทั้งพรรค ซึ่งส่วนตัวเคยถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองมาก่อน เมื่ออยู่บ้าน 111 (พรรคไทยรักไทย) และบ้าน 119 (พรรคพลังประชาชน)