“อนุทิน” ลงพื้นที่ “สงขลา” ให้กำลังใจ จนท.หลังจับ “บุหรี่เถื่อน-เหล้าเถื่อน” ความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท ย้ำ เจ้าของ ไม่ต้องเคลียร์ รอโดนจับได้เลย
วันที่ 13 ก.ค. 2567 ที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง และผู้บริหาร ได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจติดตามการจับกุมขบวนการค้าบุหรี่เถื่อน เหล้าเถื่อน กลางเมืองหาดใหญ่ ทั้งหมด 7 จุด ได้แก่ ร้านขายบุหรี่เถื่อนที่เปิดเป็นร้านขายของชำบังหน้า 3 จุด, ลานจอดรถที่ใช้เป็นคลังบุหรี่เถื่อน 2 จุด, ร้านขนส่งพัสดุเอกชน 1 จุด และโกดังเก็บบุหรี่เถื่อน 1 จุด
นายอนุทิน เปิดเผยว่า เรื่องนี้ มาจากที่ประชาชน คนบริสุทธิ์ ที่ค้าขายอย่างถูกต้อง กำลังถูกเบียดเบียนจากคนที่มุ่งเอาเปรียบประเทศชาติ ทำร้ายสังคม ด้วยการค้าของเถื่อน เลี่ยงภาษี ก็แจ้งกันเข้ามาให้จับกุม เราเรียกปฏิบัติการนี้ว่า “สิงห์สยบควัน” พบผู้กระทำผิดไม่ได้เกรงกลัวกฎหมาย มีการกระจายของไปตามจุดต่างๆ เข้าถึงลูกค้าทุกพื้นที่ ให้บริการกันแบบ 24 ชั่วโมง ท้าทายกฎหมาย เมื่อได้รับแจ้ง เราพยายามสืบเสาะหาข้อมูล เก็บหลักฐาน แล้วเปิดปฏิบัติการทันที พบมีการขายทั้งเหล้าเถื่อน บุหรี่เถื่อน ไพ่เถื่อน จับผู้ต้องหาได้ 5 ราย รถยนตร์ 15 คัน สุราเถื่อนกว่า 120 ขวด บุหรี่เถื่อนกว่า 4.5 ล้านมวน หรือ กว่า 2 แสนซอง บุหรี่ไฟฟ้า 1.9 หมื่นชิ้น เมื่อนำมาบวกลบ จะพบว่า ทำให้รัฐสูญเสียประมาณ 315 ล้านบาท
“แน่นอนว่าผิดกฎหมายหลายกระทง เจ้าของก็เจ็บหนักเหมือนกัน แล้วอย่าคิดจะมาเคลียร์ เพราะไม่คุย ถ้าจะหลบหนี เดี๋ยวเราขยายผลจนเจอแน่นอน”
นายอนุทิน เปิดเผยว่า ของที่จับได้ ไม่ใช่เพียงเป็นของเถื่อน แต่ยังเป็นของปลอม เหล้า บุหรี่ บอกว่าผลิตมาจากไหน แต่ความจริง ไม่ใช่เลย เราไม่รู้ส่วนผสม ว่าเอาอะไรมารวมกันบ้าง อันตรายกับประชาชนมาก ของแบบนี้ ของจริง ก็มีโทษต่อร่างกาย ของปลอมยิ่งน่ากลัว
“ผมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำให้ภารกิจนี้สำเร็จ ผมขอรับรองว่า ปฏิบัติการใด เมื่อเป็นไปตามกฎหมายแล้ว ท่านไม่ต้องกลัวอะไรเลย ผมสนับสนุนท่านเต็มที่ ภารกิจของเราคือ สร้างสังคม ที่มีความเป็นระเบียบ เรียบร้อย ปลอดภัย ไม่ใช่แค่เรื่องบุหรี่เถื่อน เหล้าเถื่อน แต่เรายังจัดการสถานประกอบการผิดกฎหมาย อาวุธปืน และยาเสพติด ภารกิจเรากว้างขวาง ต้องใช้ความทุ่มเทเสียสละ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกท่านทำได้อย่างดีเยี่ยมเสมอมา”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปฏิบัติการ “สิงห์สยบควัน” ครั้เงนี้ ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ได้ส่งสายลับเข้าไปแฝงตัวในพื้นที่กว่าสัปดาห์ พบความสลับซับซ้อนในกระบวนการลักลอบขายบุหรี่เถื่อน โดยพบว่าร้านเปิดเป็นร้านขายของชำบังหน้า แต่การจัดเรียงสินค้าเป็นแบบตั้งโชว์ตัวอย่างไม่เหมือนร้านขายของชำทั่วไป แต่เป็นการลักลอบขายบุหรี่เถื่อน ที่เปิดขายตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังพบว่า จุดเก็บสินค้าของร้านไม่ใช่รูปแบบสต็อกของไว้ภายในร้านหรือโกดัง แต่เป็นรูปแบบคลังสินค้าเคลื่อนที่ โดยสต๊อกของทั้งหมดไว้ในรถ ก่อนจะอาศัยความมืดในการลักลอบขนย้ายบุหรี่เถื่อนกระจายส่งไปยังร้านทุกวัน หวังเลี่ยงการถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดหากถูกจับกุม นอกจากนี้ยังพบว่าร้านขนส่งเอกชนด้านข้างถูกใช้บังหน้าเพื่อส่งสินค้าบุหรี่เถื่อน และกระจายไปถึงมือประชาชนทั่วประเทศ สร้างความเสียหายมหาศาล ก่อนถูกจับกุมในที่สุด.
