ตะลึง กฟผ.ผลิตไฟฟ้าเหลือ 17% ค่าไฟฟ้าแพงสุดโหด “วัชระ” ร้องปปช.แทนชาวบ้าน พ่วงยุบ “โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ฯ” ส่อทุจริตให้สอบกระทรวงพลังงาน
นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่าเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือส่งถึงนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ผ่านงานสารบรรณ เลขรับที่ 21559 เวลา 16.30 น.นาทีสุดท้ายของเวลาราชการ เรื่องขอให้ตั้งคณะไต่สวนกรณียุบโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติที่ จ.สุราษฎร์ธานี ส่อทุจริตและประพฤติมิชอบหรือไม่ และ กรณีทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เหลือกำลังการผลิต 17% ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ม.56 ส่อทุจริต หรือ ประพฤติมิชอบหรือไม่ และค่ากระแสไฟฟ้ามีราคาสูงประชาชนเดือดร้อนทุกครัวเรือนทั้งประเทศเป็นการส่อทุจริตหรือประพฤติมิชอบหรือไม่
นายวัชระ กล่าวว่าบัดนี้ประชาชนทุกครัวเรือนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแต่ละเดือนแพงเกินความเป็นจริงเดือดร้อนไปทั่วประเทศแล้ว ย่อมขัดต่อรัฐธรรมนูญ ม.56 สองประการคือ กำลังการผลิตไฟฟ้าของรัฐต่ำกว่าร้อยละ 51 และอัตราค่าไฟฟ้าแพงเกินกว่าที่ประชาชนจะแบกรับภาระได้
ดังนั้น จึงขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือกระทำการส่อทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์กับตนเองหรือผู้อื่นหรือไม่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และกระทำที่ส่อว่าขัดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 56 หรือไม่ จากกรณีการยุบโรงไฟฟ้าพลังแก๊สธรรมชาติ จากที่จะสร้างบริเวณเขาหัวควาย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ไปจังหวัดอื่นในภาคกลางโดยไม่ชอบธรรมและไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งต่อประชาชนภาคใต้จำนวน 10 ล้านคน โดยขอกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐกับพวก ดังนี้
1. นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน
2. นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน
3. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกับพวก
นายวัชระ กล่าวอีกว่าการยุบแผนการสร้างโรงไฟฟ้า 1,400 เมกะวัตต์นี้ นำเสนอโดย นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ทั้งนี้กระทรวงพลังงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานโดยตรงและกรณีอัตราค่าไฟฟ้ามีราคาแพงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย จึงขอกล่าวหา นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กับพวกและคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานชุดนายดิเรก ลาวัณย์ศิริ กับพวกว่าผิดกฎหมายดังกล่าวข้างต้นหรือไม่ โดยขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการกันข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ให้การเป็นประโยชน์ไว้เป็นพยานด้วย
อย่างไรก็ตาม นายวัชระ กล่าวว่า ตนยังเคารพนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ตั้งแต่สมัยอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ แต่จำเป็นต้องไปยื่นปปช.เพราะเป็นเรื่องของประเทศชาติ ประชาชนเดือดร้อนจริง ๆ ถ้าท่านสั่งการให้ กฟผ.สร้างโรงไฟฟ้าที่สุราษฎร์ธานีเพื่อความมั่นคงทางพลังงานของภาคใต้ตามแผนเดิม ก็จะไปถอนเรื่องร้องเรียนที่ปปช.ทันที แต่เรื่องค่าไฟฟ้าแพง ปปช.ต้องเร่งไต่สวนเพราะบ้านของปปช.และประชาชนทุกหลังก็จ่ายค่าไฟฟ้าแพงอย่างผิดสังเกตและมีนัยยะสำคัญ