‘คลัง’ ชี้หุ้นไทยเด้งรับข่าว ‘ทักษิณ’ แทงกั๊กเข็น LTF-ThaiESG กระตุ้นตลาด

“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ชี้หุ้นไทยเด้งรับหลังข่าว “ทักษิณ” ชัดเจน เชื่อหลังจากประเด็นการเมืองคลี่คลาย ความเชื่อมั่นตลาดทุนจะกลับมาเป็นปกติ เร่งพิจารณามาตรการกระตุ้น แทงกั๊กเข็น LTF หรือ Thai ESG กระพือตลาด แจงตั้งผู้จัดการ ตลท. เป็นไปตามกลไก-กรอบวิธี

วันที่ 18 มิ.ย. 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมายืนในแดนบวกแล้ว เชื่อว่าเป็นผลมาจากความชัดเจนมากจากข่าวอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ได้รับการประกันตัวในคดีม.112 ผลที่ออกมา ตลาดก็ตอบสนองดีขึ้น โดยมองว่าหลังจากนี้หากประเด็นการเมืองมีการเคลียร์ไปทีละเรื่อง เชื่อว่าความมั่นใจของตลาดก็จะกลับมาเป็นปกติ จึงไม่ได้เป็นห่วงภาพรวมตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นมากนัก

“เชื่อว่าไม่นานตลาดจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้น พอผ่านพ้นการวินิจฉัยไปทีละเรื่อง ซึ่งจะทำให้สถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น ก็แค่นั้นเอง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้รัฐบาลเองก็ควบคุมไม่ได้” รมช.การคลัง ระบุทั้งนี้ กระทรวงการคลังในฐานะที่เป็นภาครัฐ ได้เร่งพิจารณามาตรการและกลไกเพื่อเรียกความเชื่อมั่นในระยะยาว เพื่อจะเข้ามาเติมการหมุนเวียนในตลาดทุน ได้แก่ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศ (Thai ESG) ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียด โดยคงเลือกดำเนินการเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้น ไม่ทำทั้ง 2 มาตรการ เพราะพื้นฐานโครงสร้างของกองทุนคือแบบเดียวกัน ซึ่งยืนยันว่าคลังจะเร่งพิจารณาเพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด

“มาตรการเรียกความเชื่อมั่นมี ตอนนี้คลังกำลังคิดอยู่ และคงไม่ได้ออกมาภายใน 1-2 วันนี้ ที่พิจารณาอยู่มี 2 เรื่อง คือ LTF และ Thai ESG ก็ต้องมาดูให้มีความเหมาะสม มีผลกระทบกับการจัดเก็บรายได้ที่คุ้มค่าที่จะลงไปในตลาดทุน และถ้าทำก็คงทำแค่อันใดอันหนึ่ง ไม่ทำทั้ง 2 อัน เพราะโครงสร้างมันคือแบบเดียวกัน อย่าง Thai ESG ก็ตรงกับนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนเรื่อง ESG แต่ว่าหากจะทำรอบนี้ก็ต้องพิจารณาวางกรอบ วางกลไกให้กว้างขึ้น เหมาะสมมากขึ้น เช่น ระยะเวลาถือครอง จะสั้นกว่า 10 ปี เพราะการถือครองที่ยาวเกินไปก็ไม่ได้จูงใจนักลงทุน โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้การพิจารณาของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง ซึ่งเชื่อว่าจะมีความชัดเจนเร็วที่สุด” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการแต่งตั้งผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คนใหม่นั้น ยืนยันว่าตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว เพียงแต่เห็นตามข่าวบ้าง และอยากให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่กระทรวงจะเข้าไปกำหนดตัวบุคคลไม่ได้ เพราะมีกลไกในการสรรหาที่เป็นไปตามกรอบวิธี ไม่ใช่ว่ากระทรวงการคลังอยากให้ นาย ก. หรือ นาย ข. มาเป็น มันไม่ได้อยู่แล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามกลไก และกระทรวงการคลังก็รับทราบตามนั้น.