เทศนาธรรมสุดท้ายของนบีมูฮัมหมัด(ซ.บ.) มนุษย์ทุกคนมีเสรีภาพและได้รับการปกป้องความเท่าเทียมกันของชายหญิง
ในวันที่ 9 ซุ้ลฮิจญะฮฺ ฮ.ศ. 10 ของท่านศาสดามูฮัมหมัด ศ็อลลอลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ในการทำฮัจญ์ครั้งแรกและสุดท้ายของท่าน ท่านได้เดินทางไปยังทุ่งอารอฟะห์ พร้อมกับมวลมุสลิมที่เดินทางไปร่วมพิธีฮัจย์กว่า 100,000 คน ท่านได้กล่าวโอวาท ซึ่งเป็นโอวาทครั้งสุดท้าย…
.
“ โอ้ ประชาชาติทั้งหลาย จงตั้งใจฟังโอวาทของฉัน เพราะฉันไม่ทราบว่าจะได้พบกับพวกท่านในโอกาสเช่นนี้อีกเมื่อใด โอ้ท่านทั้งหลายชีวิตและทรัพย์สินของท่านเป็นสิ่งต้องห้าม และเป็นสิ่งที่คนใดคนหนึ่งจะมาล่วงละเมิดมิได้ จนกว่าพวกท่านจะได้พบกับองค์พระผู้อภิบาลเสมือนกับวันที่บริสุทธิ์นี้ ท่านทราบหรือไม่ว่าวันนี้เป็นวันอะไร ? ถ้าท่านยังไม่ทราบ ฉันจะบอกกับท่านว่า วันนี้เป็นวันแห่งการชุมนุมมนุษยชาติครั้งสำคัญยิ่ง ท่านทราบหรือไม่ว่าเดือนนี้คือเดือนอะไร ? เดือนนี้คือเดือนประกอบคุณงามความดี ท่านทราบหรือไม่ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินอะไร ? ณ ที่นี้คือแผ่นดินฮะรอมที่ต้องงดเว้นจากการทำความชั่วทุกประการ
ดังนั้น ฉันขอบอกกับท่านไว้ด้วยว่า ชีวิต ทรัพย์สิน และเกรียติยศ ศักดิ์ศรีของท่าน ท่านจะต้องธำรงรักษาไว้ด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เหมือนดังที่เป็นอยู่ ณ วันนี้ เดือนนี้ และสถานที่นี้ และเดือนนี้เป็นเวลาต้องห้ามสำหรับพวกท่าน และเมืองแห่งนี้เป็นเมืองต้องห้ามสำหรับพวกท่านทั้งหลาย พวกท่านทั้งหลายจะต้องได้รับการสอบสวนจากพระเจ้าของพวกท่านในกิจการงานทุกอย่างที่พวกท่านได้ประพฤติ ปฏิบัติไว้
.
บุรุษนั้นมีสิทธิเหนือสตรี และสตรีมีสิทธิเหนือบุรุษเช่นกันในหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย ดังนั้น พวกท่านจงปกป้องดูแลภรรยาของพวกท่าน ด้วยความรักความเมตตาเถิด แน่นอนใครที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้นเท่ากับเขาได้ปกครองดูแลภรรยาของเขาเอาไว้ให้อยู่ในความพิทักษ์ อภิรักษ์ของพระผู้เป็นเจ้า พวกท่านทั้งหลายจงปกปักษ์รักษาความศรัทธา เชื่อมั่นให้คงไว้ในจิตใจของพวกท่าน และจงหลีกเลี่ยงออกห่างจากเรื่องบาปกรรม ความชั่ว ดอกเบี้ยเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับลูกหนี้ ให้ส่งคืนเฉพาะเงินต้นในจำนวนที่ยืมมา และเรื่องของดอกเบี้ยจะต้องถูกยกเลิกสิ้น
.
นับต่อแต่นี้ไป เรื่องของการอาฆาต พยาบาท และการแก้แค้นเข่นฆ่า ทดแทนกันด้วยเลือด เฉกเช่นในยุคอนารยชนเป็นเรื่องต้องห้าม การจองเวรล้างผลาญกันด้วยเลือดต้องสิ้นสุดอย่างเด็ดขาด
.
โอ้ อารยชนทั้งหลายบรรดาบ่าวทาส คนใช้ของพวกท่าน ที่อยู่ในความดูแลของพวกท่านนั้น จงเลี้ยงดูพวกเขาด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่พวกท่านบริโภค และจงให้เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มแก่พวกเขาด้วยอาภรณ์ที่พวกท่านใช้ หากพวกเขาได้กระทำในสิ่งที่เป็นความผิดพลาด ที่ท่านไม่ปรารถนาจะอภัยให้พวกเขา ก็จงแยกทางกับเขาเสีย อย่าทำร้าย ทารุณกรรม เฆี่ยนตีพวกเขา เพราะเขาต่างก็เป็นบ่าวของพระผู้บริรักษ์เช่นเดียวกับพวกเรา
.
โอ้ ประชาราษฎร์ทั้งหลาย มารร้ายนั้นได้หมดสิ้นซึ่งความหวังทั้งมวลที่จะได้รับการเคารพบูชาในปฐพีของพวกท่านแล้ว แต่กระนั้นก็ตามมันยังเป็นห่วงที่จะกำหนดพฤติกรรมอันต่ำต้อยของพวกท่านอยู่ เพราะฉะนั้นจงระวังมันไว้เถิดเพื่อความปลอดภัยแห่งตัวท่าน และศาสนทูตของท่าน
.
โอ้ ปวงชนทั้งหลายพวกท่านจงระลึกและจดจำในสิ่งที่ฉันกล่าว พวกท่านต้องระลึกอยู่เสมอว่า มุสลิมทุกคนมีสถานะภาพเป็นพี่น้องกัน พวกท่านทั้งหลายมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน และขอให้ทุกคนพอใจในสิทธิเสรีภาพและหน้าที่ความรับผิดชอบที่เรามีอยู่เสมอหน้ากัน พวกท่านแต่ละคนล้วนเป็นประชาชาติเดียวกัน จงปกปักพิทักษ์รักษาตัวของท่านให้ห่างไกลจากความอยุติธรรมทุกกรณี ขอให้บุคคลที่อยู่ ณ ที่นี้ จงนำสิ่งที่ได้ยินจากฉันไปบอกเล่าแก่บุคคลที่เขามิได้มาอยู่ ณ ที่นี้ เพราะอาจเป็นไปได้ว่าบุคคลที่ไม่ได้รับการบอกเล่านั้น อาจจะจำจารึกได้ดีกว่าบุคคลที่ได้ยินไปจากฉันโดยตรงก็เป็นได้ และผู้ที่ได้รับความไว้วางใจ เขาจะต้องไม่ให้ผู้ที่ไว้เนื้อเชื่อใจเขาต้องประสบความผิดหวัง
.
โอ้ ผู้ศรัทธาทั้งหลาย หากเมื่อถึงเวลาที่ฉันต้องจากพวกท่านไปแล้ว พวกท่านจงอย่าได้หันกลับไปต่อสู้เป็นปฏิปักษ์หลั่งเลือดกัน เหมือนอย่างเช่นสมัยแห่งความงมงายและโง่เขลาเบาปัญญาดังที่ได้ผันผ่านมา แท้จริงฉันได้มอบสิ่งหนึ่งแก่พวกท่านทั้งหลาย ซึ่งถ้าพวกท่านยึดเอาไว้อย่างมั่นคงแล้ว ท่านทั้งหลายจะไม่หลงทางออกไปสู่แนวทางที่เหลวไหลเป็นอันขาด สิ่งนั้นคือ อัล-กุรอาน และ ซุนนะฮฺ ของฉัน
.
โอ้ ศรัทธาชนทั้งหลาย แท้จริงพระผู้เป็นเจ้าของพวกท่านนั้นมีพระองค์เดียว ต้นตระกูลของพวกท่านสืบมาจากเชื้อสายเดียวกัน นั่นคืออาดัม และอาดัมนั้นถูกสร้างมาจากดิน แท้จริงผู้ที่ทรงเกรียติในหมู่พวกเจ้านั้นคือผู้ที่มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ มากที่สุด ชนอาหรับหาใช่จะโดดเด่นกว่าชนชาติอื่น และชนชาติอื่นหาใช่จะเลอเลิศกว่าคนอาหรับไม่ นอกจากพวกเขามีความยำเกรงมากกว่ากันเท่านั้น
.
โอ้ มวลผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงสดับรับฟังถ้อยวาจาของฉันให้ดี จงรู้เถิดว่ามวลมุสลิมนั้นเป็นพี่น้องกัน และจงรู้เถิดว่าบรรดามุสลิมคือภารดรภาพน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีสิทธิและหน้าที่ทัดเทียมกัน ท่านทั้งหลายเป็นเครือญาติกันหมด จะไม่มีอะไรเป็นของมุสลิมคนหนึ่งคนใดโดยชอบธรรม นอกจากว่าเขาผู้นั้นจะมอบให้ด้วยความเต็มใจ และอย่าให้ใครในหมู่พวกท่านกดขี่ ข่มเหงทาสหรือลิดรอนสิทธิของเขาด้วยความไม่ชอบธรรม เพราะฉะนั้นจงอย่าประพฤติ ปฏิบัติการอยุติธรรม ต่อตัวของท่านและพี่น้องของท่าน”
ท่านได้อ่านโองการจากคัมภีร์อัล-กุรอาน มีความว่า
“วันนี้ ข้า (อัลลอฮฺ) ได้ให้ศาสนาไว้แก่พวกเจ้าอย่างสมบูรณแล้ว ได้มอบกรุณาธิคุณของข้าให้แก่พวกเจ้าไว้อย่างครบถ้วน และข้ายินดีเลือกสรรอิสลามให้เป็นแนวทางที่ดียิ่งสำหรับพวกเจ้า”