“วิษณุ” เปิดใจ ยอมรับ “เศรษฐา” บุกถึงบ้านชวนช่วยงาน “ด้านกฎหมาย” รัฐบาล

33

“วิษณุ” เปิดใจ ยอมรับ “เศรษฐา” บุกถึงบ้านชวนนั่ง”รองนายกฯ” แต่ได้ปฏิเสธไป จึงขอให้แต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา รับอาจต้องช่วยดูคดี 40สว.ร้องศาลรธน. ชี้ คดี “ทักษิณ” ผิดม.112 ส่วนใหญ่ ศาลฯจะให้ประกันตัว

วันที่ 30 พ.ค.2567 ที่เนติบัณฑิต นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่าที่นายกฯ พูดไปก่อนหน้านี้ แต่จะเล่า​ให้ฟังว่า นายกฯ ได้เดินทางมาพบตนเมื่อ 25 พ.ค.2567 บอกให้ช่วยเป็น รองนายกรัฐมนตรี แต่ตนแจง 3 เหตุผล ปฏิเสธไปคือ 1.เรื่องสุขภาพ ที่เป็นทั้งโรคไต และโรคตา 2.ในช่วงเวลา 10 เดือนที่พ้นจากตำแหน่งได้รับงานอื่นไว้จำนวนมาก หากต้องลาออก งานก็จะเสียงาน 3.มีปัญหาที่บ้านต้องจัดการหลายอย่าง

นายกฯ จึงเสนอให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตนจึงตอบว่า ไม่อยากวุ่นวาย กับการยื่นบัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน จึงถูกชวนอีกว่า ให้มาเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้องเป็นข้าราชการการเมือง ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ไม่มีห้องและรถประจำตำแหน่ง มีแค่เบี้ยประชุม เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้รัฐบาล

ตนจึงถามกลับว่า รัฐบาลมีปัญหาอะไร นายกรัฐมนตรี รับว่า ที่ผ่านมามีการถกเถียงระหว่าง “ผู้ไม่รู้” กับ “ผู้ไม่รู้” หรือบางครั้งเป็น “ครม.”กับ “ชาวบ้าน” ดังนั้น เมื่อมีปัญหาอะไรจึงอยากปรึกษา ตนจึงตอบรับว่า งั้นเป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือ สรค. จะได้โลว์โปรไฟล์มาหน่อย และ อาจจะช่วยดูวาระครม. ที่สำคัญๆ

นายกฯ จึงพูดว่า จากการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เห็นตรงกันว่า อยากให้นายวิษณุ ร่วมประชุม ครม.ด้วย เพื่อจะได้ทักท้วงได้ทันท่วงที ไม่ใช่มีมติไปแล้วจึงมาแก้ไข ตนก็ท้วงไปอีกว่า ในที่ประชุมครม. มี กฤษฎีกา และรัฐมนตรีหลายคน ก็เป็นนักกฎหมาย เช่น นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน แต่ นายกฯ ตอบกลับว่า ในบางเรื่องอยากจะได้ผู้ที่เป็นกลาง เพราะหากนายพีระพันธ์ พูดอะไร ก็มีหัวโขนรมว.พลังงงาน ด้วย และหากทะเลาะข้ามกระทรวงแล้วใครจะฟัง ตนจึงบอกว่า แล้วแต่ท่านนายกฯ ไปจัดการ แต่หากหาผู้ที่มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีได้แล้ว ตนขอบ๊ายบาย กลับไปทำงาน

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ขณะนี้ดำรงตำแหน่งอะไร นายวิษณุ ระบุว่า ตอนแรกจะเป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่ติดปัญหาหลายอย่างเช่น การเบิกเบี้ยประชุม และไม่มีสิทธิ์​ออกความเห็นไปนั่งในที่ ประชุม ครม.จึงได้ยินว่า จะยกขึ้นเป็นตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะอย่างไร ก็ไม่มีรถ และห้องประจำตำแหน่ง

เมื่อถามย้ำว่า การกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง เป็นเพราะนายกรัฐมนตรี ถูก 40 สว.ยื่นร้องใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่นายกรัฐมนตรี จะมาปรึกษาเรื่องนี้ แต่ตนไม่ใช่เจ้าของเรื่อง นายพิชิต ชื่นบาน ต้องเป็นผู้ดำเนินการ รวมทั้งกฤษฎีกา ทีมกฎหมาย และอัยการ ที่ต้องเข้ามาดูเรื่องนี้ และอาจจะให้ตนเข้าไปช่วยดูได้

เมื่อถามต่อว่า คดีนี้จะเป็นอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่เห็นสำนวน และคำร้อง แต่ก็เข้าใจว่านายกรัฐมนตรี อยากให้ตนเข้าไปช่วยดู ซึ่งเมื่อครั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกร้อง 5 คดี ตนก็เข้าไปช่วยดู แต่ไม่ได้เข้าไปดูในฐานะหัวหน้าทีม ส่วนคดีนี้ตนยังไม่สามารถตอบได้ ว่า คดีนี้จะเป็นอย่างไร เนื่องจากยังไม่เห็นคำร้อง แต่หากจะ จะตอบแบบมีความหวัง ก็คิดว่า พอมีหนทางในการสู้คดี แต่สู้แล้วชนะหรือไม่ ไม่รู้ และตนสนิทและรู้จักกับนายเศรษฐา​ อยู่ก่อนนานแล้ว

ส่วนหากนายกรัฐมนตรี หากยังหารองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายไม่ได้ ก็จะทำงานต่อไปหรือไม่ นายวิษณุ​ กล่าวว่า ไปถึงจังหวะพอสมควร ถ้านานเกินไป ตนก็มีเหตุผล 108 เช่นเจ็บป่วยลง ผู้สื่อข่าวจึงกล่าวแซวนายวิษณุว่าอย่าแช่งตัวเอง ส่วนที่มีการมองกันว่าการมาของนายวิษณุ เพื่อปูทางการกลับมาของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี และมาช่วยดูคดีของนายทักษิณ​ ใช่หรือไม่​

นายวิษณุ​ ระบุว่า ยืนยันว่าไม่จริง เพราะการที่จะนำคุณยิ่ง​ลักษณ์​กลับมา ไม่ได้ยากเลย​ ซื้อตั๋วส่งไปให้แก แกก็มาได้แล้ว สิงคโปร์-กรุงเทพฯ ลอนดอน-กรุงเทพฯ หรือ ดูไบ-กรุงเทพฯ ส่งไปแกก็มาแล้ว​ ปัญหาคือมาแล้วถูกจำคุก 5 ปี เป็นการจำคุกที่ศาลได้ตัดสินแล้ว ตนจะไปช่วยอะไรตรงนี้ได้ ส่วนนายทักษิณ เองก็ไม่มีใครจะไปช่วยอะไรได้ เพราะแกได้รับพระราชทานอภัยโทษ แล้วตนจะไปช่วย พระราชทานอภัยโทษอะไรได้อย่างไร เขาก็ต้องทำของเขาเองทั้งหมด

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีดีลในการเชิญ มารับตำแหน่งในครั้งนี้ จากกลุ่มขั้วอำนาจเดิม นายวิษณุ​ ยืนยันว่าไม่มีดีล ไม่เกี่ยวเลย พร้อมกับระบุว่า ช่วงนี้ไม่ได้มีการติดต่อกับพลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึงพลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ องคมนตรี​ โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์​ ท่านไม่ได้ติดต่ออะไรกับใครเพราะท่านไม่ยุ่งการเมืองอยู่แล้ว พลเอกประวิตร​ ก็ไม่รู้​ แต่ได้ยินว่าท่านป่วย

ส่วนที่มีคนไปโยงว่าเกี่ยวข้องกับบิ๊ก ฉ.​อดีตปลัดกระทรวง​ นายวิษณุ ย้อนถามว่า ปลัดฉิ่ง​ รู้จักแต่ไม่ได้มาดีลกับตน สื่อมวลชน จึงย้อนถามว่าแล้วใครดีล นายวิษณุ​ จึงระบุว่า​ คนดีลคือนายกรัฐมนตรี นายกฯเศรษฐา​ โทรศัพท์มาจากเมืองนอก​ จากอิตาลี หรือฝรั่งเศส​ ตนไม่แน่ใจ​ แต่ใครไปแนะนำท่านผมไม่รู้

เมื่อถามย้ำว่า คดี ม.112 น่ากังวลกับนายทักษิณหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ให้ไปถามนายทักษิณน่าจะตอบได้ หากถามตน ตนตอบไม่ถูก แต่ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ อัยการต้องคุมตัวนายทักษิณ ไปที่ศาล หากศาลประทับรับฟ้อง ก็จะต้องมาดูว่า ศาลให้ประกันตัวหรือไม่ เมื่อถามต่อว่า หากศาลไม่ให้ประกันตัว นายทักษิณ ก็ต้องติดคุกใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ใช่ แต่ในระยะหลัง คดี 112 ศาลให้ประกันตัวแทบทุกคดี