ด่วน!‘บุ้ง ทะลุวัง’เสียชีวิตแล้ว หลังหัวใจหยุดเต้น ส่งร่างชันสูตร “ทวี สอดส่อง” รับเป็นเรื่องจริง รายงาน”นายกฯ”แล้ว รอผลชันสูตรก่อนแถลง ขจัดความคลางแคลงใจ
14 พฤษภาคม 2567 ความคืบหน้ากรณีโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.เนติพร หรือ “บุ้ง กลุ่มทะลุวัง” ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง มีอาการหัวใจหยุดเต้น
ล่าสุดเวลา 11.30 น. หลังจากทีมแพทย์พยายามช่วยเหลือและส่งตัวไปรักษายัง รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ล่าสุดมีรายงานว่า “บุ้ง กลุ่มทะลุวัง” ได้เสียชีวิตแล้ว
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “ดาวแปดแฉก” โพสต์ข้อความระบุว่า “ด่วน!! “บุ้ง ทะลุวัง” เสียชีวิตแล้วที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เวลา 11.22 น. แพทย์รอชันสูตรที่นิติเวช”
สำหรับ “บุ้ง” นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวังวัย 28 ปี ถูกศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันในคดี ม.112 กรณีทำโพลเรื่องขบวนเสด็จ และถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 67 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 110 วันแล้ว ระหว่างถูกคุมขัง บุ้งได้อดอาหารเพื่อเรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และยุติการคุมขังผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง
ทางด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า ได้รับรายงานการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง แล้ว แต่เบื้องต้นเพื่อให้เป็นไปตามหลักการของกฎหมาย จะต้องมีการชันสูตรพลิกศพก่อน โดยการทำงานร่วมกันของทางกรมราชทัณฑ์ และ แพทย์จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อไม่ให้เกิดความคลางแคลงใจ ทั้งนี้ ได้รายงานเรื่องนี้ให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัน อายุ 29 ปี แกนนำกลุ่มทะลุวัง ซึ่งถูกคุมขังตามหมายขังของศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ทำพินัยกรรมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 2 ก.พ. 67 แสดงเจตนาในการจัดการทรัพย์สินของตน ภายหลังจากที่ตนถึงแก่ความตายแล้ว โดยให้ทรัพย์สินที่เป็นเงินสดของตนที่มีเก็บรักษาไว้ และที่มีอยู่ในบัญชีเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมทั้งทรัพย์สินคือ นาฬิกาข้อมือ ต่างหู และสัตว์เลี้ยงคือแมวชื่อโซ 1 ตัว ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของ น.ส.หยก (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ผู้ต้องหาคดี 112 ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนทรัพย์สินอื่นนอกจากที่ระบุไว้ข้างต้น อันรวมถึงที่ดิน สิทธิเรียกร้อง และสิทธิตามมรดกใดที่ตนพึงมีอยู่ก่อนที่จะถึงแก่ความตาย ขอยกให้แก่พี่สาวของตนแต่เพียงผู้เดียว และภายหลังจากที่ตนถึงแก่ความตายแล้ว ขอมอบให้ทนายความเป็นผู้จัดการมรดกของตนตามพินัยกรรมนี้ และให้มีอํานาจหน้าที่ตามกฎหมายทุกประการ
หากปรากฏว่า ณ วันที่ทําพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้น มีพินัยกรรมใดๆ ที่ปรากฏว่าได้ทําก่อนหน้า ให้ถือว่าพินัยกรรมที่ได้ทําก่อนหน้านั้นถูกยกเลิกทุกฉบับ ยืนยันว่าข้อความตามพินัยกรรมฉบับนี้เป็นไปตามเจตนาของตนทุกประการ ในขณะที่ทําพินัยกรรมฉบับนี้ ตนเข้าใจข้อความแห่งพินัยกรรมนี้เป็นอย่างดีและเห็นว่าตรงตามเจตนาของตน จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยาน