“สมศักดิ์” เผย พาณิชย์ ยังไม่ได้ประสาน ส่งข้าวจำนำ 10 ปี ตรวจห้องแลป

“สมศักดิ์ ” บอก พณ.ยังไม่ได้รับประสานขอให้ตรวจข้าวจำนำ 10 ปี แจง สารรมยาระเหยได้ไม่ติดนาน ‘สมชัย’ ชำแหละ 4 ประเด็น ‘ข้าวเก่าข้ามทศวรรษ’

วันที่ 13 พ.ค.2567 ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลธงชัย อ.เมือง จังหวัดเพชรบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบคุณภาพ 10 ปี ในโครงการรับจำนำข้าวที่โกดัง จ.สุรินทร์ว่า ตนมีความรู้เรื่องข้าวเล็กน้อย แต่หากมีการเก็บข้าวไว้ในระยะเวลาหนึ่ง ผู้ประกอบการก็จะนำข้าวไปปรับปรุงคุณภาพ โดยเครื่อง Sortting Machine คัดเมล็ดข้าวคุณภาพต่ำออก และเก็บไว้เพียงข้าวเมล็ดดี ก็จะทำให้กลายเป็นข้าวชั้น 1 และดีที่สุดกระทรวงพาณิชย์ควรนำข้าวไปตรวจแลปไปตรวจอยู่ดี

“เรื่องสีนั้นผมไม่มั่นใจ เพราะความรู้น้อย แต่การรมยาในสมัยเด็กแม่ผม เป็นแม่ค้ารับซื้อพืชไร่ ก็มีการรมยาเป็นปกติ มิเช่นนั้น ก็จะมีมอดหรือแมลง ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า สารเคมีดังกล่าวก็จะไม่ติดอยู่นาน”

ถามว่าไม่จำเป็นต้องให้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า อย่าไปพูดแบบนั้น เพราะ กระทรวงพาณิชย์ต้องทำหนังสือส่งมาอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่แอบเก็บตัวอย่างจากที่ต่าง ๆ มาโดยไม่มีหลักฐาน และเรื่องดังกล่าวต้องทำให้เป็นวิทยาศาสตร์ และใช้ข้าวจากที่เดียวกันมาตรวจจากแลปที่เชื่อถือได้ ซึ่งกระบวนการทางราชการไม่มีใครสามารถโกหกผลแลปได้ เพราะจะกระทบต่อชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ทราบว่าขณะนี้มีการส่งข้าวมาให้แลปตรวจสอบคุณภาพข้าวแล้วหรือยัง เนื่องจากตนเองไม่ได้ทำหน้าที่ รมว.พาณิชย์ แต่หาก กระทรวงพาณิชย์ร้องขอมาก็พร้อมตรวจสอบให้

ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อว่าด้วยการตรวจสอบข้าว 10 ปี โดยระบุว่า

1.รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ “อ.อ๊อด” อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์​ เอาข้าวที่ไหนมาตรวจ เชื่อได้ไหมว่าเป็นข้าวจากโกดังที่สุรินทร์ ใครจะมีปัญญาเอาออกมา (นายชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาลกล่าว)

คำตอบ คือ เป็นข้าวที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เอาออกมาจากโกดัง และส่งให้กับทีวีแค่บางช่อง พิธีกรแค่บางคน แต่ในวงการข่าว เขาขอต่อกันอีกที เลยหลุดไปถึง อ.วีรชัย ได้ ของแท้ครับของแท้

2.การตรวจของ อ.วีรชัย น่าเชื่อถือแล้วหรือไม่ คำตอบ คือ ไม่ เพราะเป็นเพียงตัวอย่างจำนวนน้อย ขาดการสุ่มอย่างเป็นระบบเพื่อให้ได้ตัวอย่างที่เป็นตัวแทนข้าวทั้งโกดัง อย่างไรก็ตาม ผลที่พบว่ามีสารอะฟลาท็อกซิน 1 ใน 3 ตัวอย่างที่ตรวจ ถือว่ามาก เพราะเท่ากับ 33 % ในขณะที่หากจะยอมรับว่าปลอดภัยควรไม่มีเลย หรือ ไม่ควรเกิน 1 % ก็ถือว่ามากแล้ว สำหรับมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร

3.น่าแปลก ที่รัฐบาลผู้เป็นเจ้าของข้าวในโกดัง ไม่ใยดีต่อชีวิตคน ไม่ใช้อำนาจสั่งการให้ส่งข้าวไปทดสอบทางวิทยาศาสตร์ หน่วยราชการก็ไม่กล้าอาสาตัวเองออกมาตรวจ โยนไปที่กระทรวงพาณิชย์ ว่าไม่ส่งมาให้กระทรวงพาณิชย์ก็อ้ำอึ้ง บอกว่าการประมูลได้มีการตรวจคุณภาพโดยละเอียดแล้ว หรือคงดูด้วยสายตาใช้ปากของตัวเองชิม

4.การตรวจทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ใช้เวลามาก ยิ่งเงินแทบไม่ต้องใช้ เพราะเรามีส่วนราชการมากมายที่พร้อมทำ อย่าไม่ตรวจเพียงแค่รักษาหน้ารัฐมนตรี แต่ควรส่งตรวจเพื่อรักษาชีวิต และความเชื่อมั่นในสินค้าข้าวไทยของคนไทยและชาวโลก แต่ขึ้นอยู่กับผู้บริหารประเทศว่าจะมีจิตสำนึก สติและปัญญาหรือไม่ ยิ่งนับวันยิ่งลดน้อยลงหรือเปล่า.