“เศรษฐา”ใส่เสื้อแดงขึ้นเวที พบคนมหาสารคาม ชู 3 ปัญหาวาระแห่งชาติ “หนี้นอกระบบ-ยาเสพติด-ภัยแล้ง” ย้ำคำมั่นเงินหมื่นดิจิทัลได้แน่ไตรมาส 4 ขณะที่ “อุ๊งอิ๊ง” โผล่ปลุกเสื้อแดง ขอเสียงทำประชามติ 3 ครั้งแก้รธน.
วันที่ 5 พ.ค.2567 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมายังศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้จัดเวทีเพื่อไทยพบประชาชน โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค สวมใส่เสื้อสีแดง พร้อมนำ สส.พรรคเพื่อไทย อาทิ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช สส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ชนก จันทาทอง สส.เขต 2 จ.หนองคาย นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด เขต 2 และ นายภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ เขต 4 ร่วมขึ้นเวทีปราศรัย ในหัวข้อ “พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน” โดยประชาชนที่มาร่วมงานต่างสวมใส่เสื้อสีแดงด้วยเช่นกัน โดยมีข้อความว่า “นักสู้สภา นักสู้สภา นักสู้สภา”โดยเวทีดังกล่าว มีการปราศรัยให้ประชาชนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ผ่านการทำประชามติ 3 ครั้ง ซึ่งเป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ โดยเป็นการแก้รัฐธรรมนูญฉบับที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยแก้ไขไว้ จากนั้นได้มีการเปิดเวทีของรัฐบาล โดยเวลา 11.44 น. นายกฯ เดินทางถึงศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม โดยสวมใส่เสื้อสีแดง ซึ่งทันทีที่เดินทางถึงได้ทักทายประชาชน มีประชาชนได้มอบผ้าขาวม้าและดอกกุหลาบสีแดงให้
นายเศรษฐา กล่าวว่า จำได้หรือไม่ว่าเดือนนี้ เมื่อปีที่แล้วมาหาเสียงที่นี่ ยังจำได้ว่ามีพายุฝนตกใหญ่ และจำรอยยิ้มได้ วันนี้มาไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังประทับใจในรอยยิ้มและความตั้งใจจริงของพี่น้อง ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าร้อนอุตส่าห์ตรากตรำมาให้การต้อนรับ ซึ่งตน รัฐมนตรี สส.ภาคอีสานและสส.บัญชีรายชื่อทุกท่านรู้สึกภูมิใจ เป็นเกียรติและซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง“วันนี้ปัญหาใหญ่อยู่ข้างหน้าของรัฐบาลนี้มีเยอะ เมื่อกี้นี้ท่านโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้พูดไปแล้วเรื่องของเงินดิจิทัลไม่ต้องห่วงไตรมาส 4 มาแน่นอน เรื่องดีๆ ผมเชื่อว่าท่านทราบอยู่แล้วว่า รัฐบาลทำอะไรอยู่บ้าง ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวกัน แต่เรามาพูดถึงปัญหาดีกว่า เพราะเราต้องยอมรับว่ามีปัญหาที่พวกท่านทั้งหลายยังมีความกังวลใจอยู่เยอะ ในที่นี้มีใครเป็นหนี้บ้าง วันนี้หนี้ในระบบเราพยายามที่จะลดดอกเบี้ย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จไปแล้วจุดหนึ่ง แต่เราจะไม่ลดละ ความพยายามที่จะลดดอกเบี้ยในระบบ แต่ปัญหาใหญ่ที่ทุกคนทราบคือปัญหาหนี้นอกระบบ ตรงนี้ได้มีการประชุมไปแล้ว เราให้ความสำคัญกับเรื่องหนี้นอกระบบ ซึ่งผมเห็นใจและเข้าใจว่าพี่น้องเราตรากตรำทำงานหนักเท่าไหร่ก็ไม่พอจ่ายดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นผมอยากจะขอความกรุณาใครเป็นหนี้นอกระบบ แจ้งต่อหน่วยงานปกครอง เข้ามาเพื่อช่วยเคลียร์หนี้กับเจ้าหนี้ และสถาบันทางการเงินของรัฐไม่ว่าจะเป็นธนาคารออมสิน เราพร้อมให้ความช่วยเหลือนำสภาพคล่องกับคืนสู่พี่น้องทุกคน”นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องของหนี้สิน ตนถือเป็นจุดกำเนิดของปัญหาอะไรอีกหลายอย่าง ทำงานเท่าไหร่ไม่พอใช้หนี้ ท่านมีความกลุ้มใจและหลายท่านไปพึ่งยาเสพติด ที่เป็นปัญหาใหญ่มาก ซึ่งตนยังจำได้มายืนอยู่ตรงนี้เมื่อปีที่แล้ว พี่น้องทุกคนบอกว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งรัฐบาลตระหนักดี เรามีการยึดทรัพย์เด็ดขาดและปิดชายแดนไม่ให้มีการนำยาเสพติดเข้ามา แต่สำคัญมากกว่านั้น เรามีผู้ติดยาเสพติดในหมู่บ้านเรา เราต้องแยกออกและนำไปบำบัดให้ดี โดยตนสั่งการไปยังหน่วยงานความมั่นคง กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้เยียวยารักษา และให้เขากลับคืนสู่อ้อมกอดของพ่อแม่พี่น้อง
“ปัญหาสุดท้ายที่ความจริงแล้วทุกคนทราบดี คือปัญหาภัยแล้ง เราพึ่งพาภาคเกษตรกรรมเยอะ จึงสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดูแลพี่น้องประชาชนในเรื่องของแหล่งน้ำ การขุดลอกคูคลอง จังหวัดนี้มีผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลเยอะไม่ว่าจะเป็น นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งความจริงแล้ว เป็นตำแหน่งที่ใหญ่มากมีแค่ 5 คนซึ่งท่านให้ความสำคัญกับพื้นที่ และให้ความสำคัญกับปัญหาภัยแล้ง ปัญหาเรื่องน้ำ ฉะนั้นไม่ต้องห่วง นอกจากนี้ พื้นที่นี้ยังมีนายสุทิน คลังแสง ก็เป็นรมว.กลาโหม ซึ่งมีหน่วยงานที่ช่วยดูแลประชาชนได้ ไม่ว่าจะเป็นทหารพัฒนา ที่มาช่วยขุดลอกคูคลอง นำรถน้ำมาบรรเทาสาธารณภัย เพราะฉะนั้นปัญหาทั้ง 3 อย่างกำลังถูกแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นปัญหานี้นอกระบบ ปัญหาภัยแล้ง และปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติทั้ง 3 เรื่อง จึงขอให้มั่นใจรัฐบาลเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนได้ในทุกมิติ”
ทั้งนี้ พิธีกรบนเวทีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ถามประชาชนว่าเอาเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ โดยประชาชนต่างตะโกนตอบว่า “เอา” อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายได้มีประชาชน ตะโกนบอกว่า “รักนายกฯ เศรษฐา” ด้วย