“ชัยชนะ” เดือดจัด! ท้า “เศรษฐา” เปิดชื่อมาเลย ใครขอให้ ปชป.เข้าร่วมรัฐบาล ?

อย่าพูดลอยๆ “ชัยชนะ เดชเดโช” เดือดจัด ท้า”นายกฯ”เปิดชื่อมาเลย ใครขอเข้าให้ พรรคปชป. ร่วมรัฐบาล? ข้องใจมีกระบวนการรับงานถล่มพรรค ก่อนซักฟอก ชี้ ข่าวก็คือข่าว แต่ปัดตอบหากมีการปรับ ครม.ปชป.จะเข้าร่วมหรือไม่ บอกเป็นเรื่องของอนาคต ตอบไม่ได้

วันที่ 4 เมษายน 2567 ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ ที่กำลังทำให้โลกงง วันหนึ่งจะเป็นฝ่ายค้านอีกวันนึงจะขอร่วมรัฐบาลว่า สิ่งที่นายกฯ บอกว่าฝ่ายค้านอยากร่วมรัฐบาลขอให้ระบุมาเลย ว่า ใคร พรรคไหน อย่างไร อย่าพูดลอยๆ

“นายกฯ เป็นผู้นำประเทศต้องมีวุฒิภาวะ การที่จะออกมาพูดกับสังคม และให้สังคมเชื่อถือต้องบอกว่าเป็นใคร ผมเห็นว่าการอภิปรายของฝ่ายค้านตามมาตรา 152 เป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้าน ที่จะวิจารณ์หรือแนะนำรัฐบาล สิ่งที่นายกฯ กระทำคือ ควรฟัง และนำไปแก้ไขจุดที่บกพร่อง แต่ถ้านายกฯ จะทำตัวเป็นซูเปอร์แมนที่ไม่ฟังใคร ผมคิดว่าคงจะบริหารประเทศไม่ได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการออกมาระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ขอเข้าร่วมรัฐบาล นายชัยชนะ กล่าวว่า ข่าวก็คือข่าว ซึ่งเป็นการคาดเดาเหมือนกับหมอดูที่ทำนาย ตนยังไม่ทราบเลยว่าข่าวนี้มีความเป็นมาอย่างไร และที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ปล่อยข่าวเองนั้น อยากจะถามว่าจะปล่อยมาเพื่ออะไร

ทั้งนี้ ในอดีตสภาถ้ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีการประท้วงกันอย่างมาก เมื่อวันนี้หยิบยกข้อมูลข้อเท็จจริงมาอภิปราย การประท้วงจึงไม่มี

นายชัยชนะ กล่าวว่า คิดว่าการทำหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวานทำหน้าที่ได้ดีทุกคน เมื่อถามว่า หากมีการปรับ ครม.ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่เข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า การปรับ ครม.ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายค้าน และเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เราพูดไม่ได้

เมื่อถามว่า ได้คุยกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้วใช่หรือไม่ว่าไม่มีใครดอดไปคุยกับรัฐบาล นายชัยชนะ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีการพูดคุยกัน เราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และข่าวนี้ก็ออกมาก่อนที่จะมีการอภิปรายตามมาตรา 152 ก็ต้องถามว่าออกข่าวอย่างนี้มาเพื่ออะไร ซึ่งเราก็ต้องมองในเรื่องของการเมืองด้วย ทั้งนี้ ตนก็เป็นคนหนึ่งที่มีชื่ออยู่ในข่าว ก็ยังไม่รู้เลยว่ามีชื่อออกมาได้อย่างไร

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการวางยาพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า คิดได้ทั้งหมด อาจจะถูกวางยา หรืออาจจะรับงานจากใครก็ได้ หรืออาจมาจากผู้ประสงค์ดี หรือประสงค์ร้ายก็ได้ ซึ่งตนเข้าใจการเมืองไทยดี ยืนยันว่า 25 เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ยังรักกันดี ผูกพันสามัคคี และจะมีความสามัคคีมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไป

เมื่อถามว่า การอภิปรายตามมาตรา 152 ครั้งนี้ ดูเหมือนจะแตะเรื่องของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น้อยเกินไป จะเก็บไว้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ในสมัยหน้าใช่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ขอให้ติดตามการอภิปรายวันนี้อีกที ซึ่งวันนี้เป็นการทำหน้าที่ตามมาตรา 152 ส่วนการอภิปรายในสมัยประชุมหน้า ที่จะมีการอภิปรายตามมาตรา 151 นั้นจะเข้มข้นแน่นอน