“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ยืนยันเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน1หมื่นให้ ปชช. พร้อมสั่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งหาข้อสรุปว่าจะใช้แหล่งเงินใด พร้อมนัดหาข้อยุติ 10 เม.ย.นี้อีกรอบ
วันที่ 27 มี.ค.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังเป็น ประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 2/2567 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง
โดยนายเศรษฐา ระบุว่า ที่ประชุมรับทราบว่า เศรษฐกิจมีปัญหา มีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากมีการเติบโตของ GDP ต่ำมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่เติบโตสูงกว่าเราเป็นเท่าตัว โดยที่ประชุมได้มอบให้แต่ละหน่วยงาน ศึกษาเพิ่มเติม นำข้อสรุปมารายงานต่อที่ประชุมในการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ในวันที่ 10 เม.ย. นี้ ประกอบด้วยให้ กระทรวงการคลังได้เสนอความเป็นไปได้ของแหล่งเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นอกเหนือจากการออก พ.ร.บ.เงินกู้ฯ ซึ่งมอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ไปดำเนินการ
ให้กระทรวงพาณิชย์ สรุปหลักเกณฑ์ ร้านค้าและสินค้า ให้ กระทรวงดีอีเอส และ บอร์ดรัฐบาลดิจิทัล สรุปการพัฒนาระบบและการจัดทำลักษณะเปิด หรือ Open-loop เพื่อให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจกระเป๋าเงินเข้าร่วมโครงการ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วางกรอบการตรวจสอบ วินิจฉัย ร้องทุกข์กล่าวโทษ และการเรียกเงินคืน
นายกฯ ยืนยันว่าในวันที่ 10 เม.ย.นี้ เมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมดจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้พิจารณาภายในสิ้นเดือนเมษายน พร้อมยืนยันไทม์ไลน์เป็นไปตามเดิมที่นายจุลพันธุ์ ได้แถลงเอาไว้ว่าก่อนจะถึงมือประชาชนภายในไตรมาสที่ 4 โดยที่ประชุมวันนี้ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ทุกภาคส่วนเห็นตรงกันทั้งหมด เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ผู้ว่าแบงก์ชาติ เห็นด้วยในขั้นตอนทั้งหมด
ด้าน นายจุลพันธ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าแบงก์ชาติ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่ได้ส่งรองผู้ว่าแบงก์ชาติมาประชุมแทน และ ไม่สามารถตอบได้ว่าหลังจากนี้ ผู้ว่าแบงก์ชาติจะไม่เห็นต่าง และในที่ประชุมวันนี้ได้นำรายงานข้อเสนอแนะฉบับจริงของ ป.ป.ช. แจ้งให้กับที่ประชุมรับทราบและไม่ได้มีข้อคิดเห็นใดๆ ยืนยันจะเดินหน้าโครงการและพร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย และขอให้ประชาชนรอฟังข่าวดีในวันที่ 10 เมษายนนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานไปทำการบ้าน รวมถึงไปศึกษาแหล่งเงินอื่น นอกเหนือจากการออก พ.ร.บ.กู้เงินฯ ยืนยันเงินถึงมือประชาชนในไตรมาส 4 ของปีนี้อย่างแน่นอน.