ตำรวจนำตัว‘จักรภพ เพ็ญแข ’ถึงกองปราบปราม ทนาย-น้องสาวรุดเข้าพบ ย้ำเจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เผยกลับไทยช่วงนี้ เพราะรัฐบาลเป็นประชาธิปไตย-อยากกลับมารับใช้ชาติ ไม่เกี่ยว ‘ทักษิณ ชินวัตร’
วันที่ 28 มีนาคม 2567 นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกตำรวจควบคุมตัวจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาที่กองบังคับการปราบปราม หลังจากเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากยังมีหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่ ตำรวจจึงไปรอควบคุมตัว เพื่อพามาสอบปากคำ หลังจากลี้ภัยทางการเมืองมา 15 ปี
เมื่อมาถึงกองบังคับการปราบปราม ตำรวจได้พานายจักรภพ หลบสื่อมวลชน โดยขับรถตู้ไปจอดที่บริเวณด้านหลัง ระหว่างอาคารกองบังคับการปราบปราม และอาคารจอดรถ ก่อนพาขึ้นลิฟต์อาคารจอดรถขึ้นไปชั้น 2 ซึ่งมีทางเชื่อมเข้าสู่อาคารกองบังคับการปราบปราม
ต่อมาเวลา 09.40 น.ที่กองบังคับการปรามปราม (บก.ป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความส่วนตัวของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธสงคราม และอังยี่ ก่อนลี้ภัยทางการเมืองเมื่อปี 2552 เป็นเวลากว่า 15 ปี ภายหลังเดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าวันนี้นายโชคชัย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนขึ้นไปพบเจ้าหน้าที่ ว่า วันนี้ก็ว่าไปตามกระบวนการ และต้องดูว่าจะมีการยื่นขอประกันตัว โดยวางหลักทรัพย์เท่าไร ในข้อหาครอบครอบอาวุธปืน และอั้งยี่ ที่เกิดขึ้นใน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ เป็นกระบวนการต่อเนื่องอยู่แล้ว เพราะมีหมายจับ จึงต้องยื่นขอประกันตัว โดยคาดการณ์ว่าจะวางหลักทรัพย์ 2 – 3 แสนบาท ต่อคดีความ ซึ่งคดีดังกล่าวมีอายุความ 20 ปี
เมื่อถามว่านายจักรภพ ได้แจ้งรายละเอียดทางคดีหรือไม่ ทนายโชคชัย กล่าวว่า คดีนี้เข้าสู่กระบวนการของศาลไปแล้ว บางคนได้รับการตัดสินไปแล้ว แต่ของนายจักรภพยังไม่มีการตัดสิน และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนจะได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
นายโชคชัย ระบุต่อว่า ส่วนตัวทำตามขั้นตอนอยู่แล้ว และไม่มีความกังวลว่าจะไม่ได้รับการประกันตัว เพราะจำเลยเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายทุกขั้นตอน หากว่าสามารถประกันตัวได้ในชั้นนี้ ก็พร้อมจะยื่นหลักทรัพย์ทันที เมื่อถามว่านายจักรภพ เดินทางมาถึงกองปราบปรามแล้วใช่หรือไม่ นายโชคชัย ระบุว่า แยกกันมาคนละคัน แต่ก็ตามกันมาติดๆ พร้อมย้ำว่าไม่กังวลใจหลังลี้ภัยทางการเมืองไปนานกว่า 15 ปีส่วนหลักฐานในการชี้แจงในวันนี้ นายโชคชัย กล่าวว่า เรื่องหลักฐานต้องพูดคุยต่อไป แต่วันนี้นายจักรภพ ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะต้องพูดคุยกันต่อ เพราะลี้ภัยในต่างประเทศมานาน เมื่อถามว่านายจักรภพ ได้ฝากอะไรถึงมวลชนคนเสื้อแดงที่เคยร่วมต่อสู้หรือไม่ นายโชคชัย กล่าวว่า เจ้าตัวบอกเพียงว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนตัวทราบเพียงเท่านี้ เมื่อถามว่ามีอดีตแกนนำคนเสื้อแดงคนอื่นที่ลี้ภัยทางการเมือง ติดต่อเข้ามาเพื่อเดินทางกลับไทยหรือไม่ นายโชคชัย กล่าวว่า ยังไม่มี
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเดินทางกลับไทยของนายจักรภพ มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยตรงหรือไม่ นายโชคชัย กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะทำหน้าที่ในฐานะทนายความ ส่วนเหตุผลที่เจ้าตัวเดินทางกลับมา ก็ขอให้ผู้สื่อข่าวไปสอบถามเอง จะเกี่ยวหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ ทราบเพียงว่าบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะที่จะกลับมาได้แล้ว และเป็นเรื่องที่แต่ละคนมีวิจารณญาณส่วนตัวอยู่แล้ว
จากนั้นนายสุไพรพล ช่วยชู เลขาส่วนตัวของนายจักรภพ กล่าวว่า หลังจากกระบวนการเสร็จสิ้น นายจักรภพ จะลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ก็คงไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่าเหตุผลที่นายจักรภพ กลับมา ได้แจ้งไว้กับเลขาหรือไม่ นายสุไพรพล ระบุว่า ก็เหมือนที่นายจักรภพโพสต์ในเฟสบุ๊กเมื่อวานนี้ว่าจะกลับมารับใช้ประเทศไทย ส่วนความมั่นใจในการได้ประกันตัวในชั้นสอบสวน นายสุไพรพล กล่าวว่า มั่นใจ เพราะข้อกล่าวหาที่ผ่านมานั้น เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีข้อเท็จจริง
ส่วนการหายตัวไปถึง 15 ปี จะเป็นปัจจัยที่ไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่ นายสุไพพล กล่าวว่า เนื่องจากนายจักรภพมีภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศด้วย และอยู่ในช่วงที่รัฐบาลมาจากรัฐประหาร ไม่เป็นประชาธิปไตย เมื่อถามว่านายจักรภพ ได้ฝากอะไรถึงคนเสื้อแดงหรือไม่ นายสุไพรพล กล่าวว่า นายจักรภพ ฝากมาบอกว่าจนถึงปัจจุบันยังไม่ลืมพี่น้องประชาชน ยังมีจิตใจที่ตอบแทนสังคมเหมือนเดิม และจะทำเพื่อประเทศชาติมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนหลังจากนี้นายจักรภพ จะทำอะไรในประเทศไทยต่อหรือไม่นั้น นายสุไพรพล กล่าวว่า หลังจากนี้จะไปดำเนินการเรื่องเอกสารส่วนตัวที่ขาดอายุไป หลังลี้ภัยไป 15 ปี และจะรอสักพักหนึ่ง ขอให้รอถามที่เจ้าตัวอีกที ขณะที่ ณัฐนันท์ เพ็ญแข น้องสาวของนายจักรภพ กล่าวว่า ดีใจมาก ที่จะได้พบพี่ชายหลังไม่เจอกันมา 15 ปี ซึ่งพี่ชายได้เล่าการเป็นอยู่ชีวิตในต่างแดนว่า มีชีวิตอยู่ตามอัตภาพ