เคลียร์แล้ว! นายกฯเรียก ‘บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก’ รีบทำงาน จบความขัดแย้งวงการตำรวจ

“เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ เรียก “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” จบความขัดแย้งวงการ ตร. เดินหน้าทำงานต่อ ขณะ “บิ๊กโจ๊ก” ระบุ จะถูกพักราชการหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจนายกฯ

วันที่ 20 มี.ค.2567 เวลา 11.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เรียก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เข้าหารือเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งในแวดวงตำรวจ โดยหลังการหารือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้ขึ้นรถส่วนตัวออกจากทำเนียบรัฐบาลออกไป โดยไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด ในขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งออกมาภายหลัง ให้สัมภาษณ์ว่า

การหารือวันนี้ เข้าพบนายกฯ พร้อมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 10 นาที ซึ่งการหารือวันนี้จบแล้ว และจะมีการแถลงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับ ผบ.ตร. โดยในการพูดคุย นายกฯ ย้ำเรื่องเดียวคือให้ทำงานร่วมกับประชาชน ส่วนรวม ประเทศชาติ และหน่วยงานมีความสามัคคีกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ความขัดแย้งต้องจบแล้วกลับไปทำงาน ใครที่มีคดีความก็ว่ากันไป ส่วนตัวจะถูกพักราชการหรือไม่ ก็อยู่ที่ดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี สำหรับกรณีที่มีการแฉอักษรย่อนั้น ขอไม่พูดถึง เพราะเป็นเรื่องเก่าแล้ว

“ตอนนี้ความขัดแย้งไม่มีแล้ว ความขัดแย้งเป็นศูนย์ ใครมีคดีก็ว่ากันไป คดีไหนที่ ป.ป.ช. รับ ก็ส่ง ป.ป.ช. ไป กลับมาทำงานอย่างเดียว” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า รับประกันได้หรือไม่ว่า จากนี้จะไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ท่านนายกฯ เน้นย้ำแล้ว ทั้งตน และ ผบ.ตร. ก็ต้องเดินหน้าเหมือนกันหมด ต้องไม่มีการขัดแย้ง ต้องทำงานให้ประชาชนอย่างเดียว ต้องจบ คดีก็ว่ากันไป ถามว่าสบายใจหรือไม่นั้น ส่วนตัวก็ทำงานตามปกติ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น ที่ สตช. “บิ๊กต่อ” และ “บิ๊กโจ๊ก” ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดย “บิ๊กต่อ” ระบุว่า วันนี้เชิญสื่อมาเพื่อให้ทราบพร้อมกันเวลานำเสนอข่าว เพราะภาพที่ออกไปสู่พี่น้องประชาชนทำให้หลายคนเข้าใจหลากหลายความคิด วันนี้ก็เลยอยากมาเรียนพี่น้องสื่อมวลชน จะให้ทราบกันว่าในกรณีที่มีการแถลงข่าวเรื่องของคดีของบิ๊กโจ๊ก จากนี้ไปคดีที่เกี่ยวเนื่องกันทั้งหมด เราจะส่งให้ ป.ป.ช.ทำคดีต่อไปทั้งหมด เพื่อให้เกิดความยุติธรรม ให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ และเรื่องนี้ได้เรียนนำเรียนท่านนายกฯเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าที่ผ่านมาเกิดภาพความขัดแย้งใน สตช.มาตลอด แต่จริงๆตนเองนั้นพูดคุยกับบิ๊กโจ๊กมาโดยตลอด ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน

ตนพูดเสมอว่า เราต้องอยู่เหนือความขัดแย้ง อย่าเอาความขัดแย้งมาใส่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะมันไม่มี ย้ำว่าสำนวนการสอบสวนทั้งหมด จะส่งให้ป.ป.ช.เพื่อให้ความยุติธรรมแก่ บิ๊กโจ๊ก และเรื่องนี้ตนตัดสินใจเอง บิ๊กโจ๊กไม่ได้เป็นคนมาสั่ง ซึ่งตนอยากให้เป็นทิศทางเดียวกันและไม่ต้องมาถามอีกเพราะมันเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมหลายหน่วยงาน เพื่อให้มีการตรวจสอบให้ได้มาตรฐานที่สุด
ด้านพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาลระบุว่า ระบุว่า ผบ.ตร.พาตนไปพบนายกรัฐมนตรี และผบ.ตร.มีแนวความคิดยุติความขัดแย้งในองค์กร ตั้งแต่ รองลำดับที่หนึ่ง จนถึงชั้นประทวนทั้งหมด มีผู้บัญชาการคนเดียวคือ ผบ.ตร. วันนี้นายกฯ ผบ.ตร และตนมีแนวคิดเดียวกันคือทำงานเพื่อประชาชน ท่านผบ.ตร.เป็นผู้นำเรียนนายกรัฐมนตรีเองว่าสำนวนคดีที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมด จะส่งให้ ป.ป.ช.ดูแลทั้งหมด

ซึ่งเมื่อไปถึง ป.ป.ช.แล้ว ก็ต้องเป็นส่วนของ ป.ป.ช.ดำเนินการจะออกหมายเรียกหรือออกหมายจับ ก็เป็นในส่วนของป.ป.ช.ที่จะดำเนินการต่อไปตามกระบวนการของกฎหมาย ต้องเรียนว่าเรื่องเดิมเรื่องเก่าจะไม่คุยแล้ว จะเดินหน้าทำงานให้ประชาชนอย่างเดียว และที่นัดแถลงวันนี้ก็เพื่อให้เกิดความชัดเจน จะไม่มีดรามาในสื่อโซเชียลมีเดียใดๆทั้งสิ้น จะไม่มีความขัดแย้งใดๆทั้งสิ้น

ด้าน บิ๊กต่อ ย้ำว่าจริงๆเราไม่มีความขัดแย้ง แต่ทุกอย่างเกิดจากกระแสโซเชียล มีคนที่พยายามทำให้มันเกิดความขัดแย้ง ในสตช. แบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย ตนยืนยันไม่เคยเตะสกัดขาบิ๊กโจ๊กเพราะเป็นพี่น้องกัน จากนี้ไปถ้ามีดรามาในโซเชียล ที่พยายามจะให้ความขัดแย้ง ให้รู้ไว้ว่าไม่ได้มาจากตนและบิ๊กโจ๊กแน่นอน แต่เกิดจากขบวนการที่ทำให้เราดูมีความขัดแย้งกัน

ที่ผ่านมายอมรับว่าตนเครียด แต่พยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ให้เกิดภาพความขัดแย้ง พยายามทำให้ลูกน้องมีความสุขและมีกำลังใจ อย่างเช่น ท่านนายกฯท่านขยันทำงานเพื่อประเทศทุกวัน จึงไม่อยากให้เรื่องนี้ไปทำให้ท่านนายกฯไม่สบายใจด้วย จึงตัดสินใจไปหานายกฯเพื่อยุตติเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น

ขณะที่ บิ๊กโจ๊ก กล่าวว่า เมื่อท่าน ผบ.ตร.บอกจบ ตนก็จบ และตนเตรียมถอนฟ้องยุติทุกอย่างแบบลูกผู้ชาย เพราะคุยกันจบแล้ว ตำรวจมีวินัยต้องชัดเจน ทุกอย่างจบด้วยการเจรจาและพูดคุย เพราะที่ผ่านมาไม่ได้พูดคุยจึงไม่เข้าใจกัน เรื่องที่ฟ้องกันหยุมหยิมต้องถอนฟ้องให้หมด