กระแสข่าวการปรับครม.เกิดขึ้น กระชั้นถี่ขึ้น หลังจาก “เศรษฐา ทวีสิน” มีเหตุจำเป็นต้องสละเก้าอี้ รมว.คลัง เพื่อเปิดทางให้ “คีย์แมน” ตัวจริงที่ เชี่ยวชาญ ด้านการเงิน การคลัง เข้ามาบริหารจัดการ
แม้ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวเคยระบุว่า “ไม่มีความคิดปรับครม.ในขณะนี้ เพราะ ครม.ทุกคนต่างกำลังเร่งทำงานกันเต็มที่” แต่ในความเป็นจริง หลายกระทรวงงานไม่คืบหน้า การวางตัว “รัฐมนตรี” ไม่สอดคล้องกับงาน หลังบริหารงานผ่านไป 7 เดือน
อย่างไรก็ตามต้องจับความเคลื่อนจาก “บ้านจันทร์ส่องหล้า” จะส่งสัญญาณปรับ ครม. ในช่วงเวลาใด และ ต้องการเกลี่ยโควตา “รัฐมนตรี” ใหม่หรือไม่ ?
การตัดสินใจตามกฎหมายอยู่ที่ “เศรษฐา ทวีสิน” แต่คนชี้ขาดในเชิงโครงสร้างทางการเมืองอยู่ที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า”จับสัญญาณ ปรับ ครม.มีอยู่ 2 ช่วง 1. หลังวันที่ 9 เม.ย.2567 ภายหลังปิดสมัยประชุมสภาฯ ซึ่ง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 จะมีผลบังคับใช้ในช่วงเวลาดังกล่าวพอดี
2. หลังวันที่ 10 พ.ค.2567 ซึ่งจะหมดวาระ 250 สว. ปฏิบัติหน้าที่ครบ 5 ปี จะต้องสรรหา สว. ชุดใหม่ โดยไม่มีอำนาจโหวตเลือกนายกฯอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้ง มีข่าวปล่อย ย่อม สั่นสะเทือนเก้าอี้ “รัฐมนตรี” และ ความเคลื่อนไหวภายใน “เพื่อไทย” นับวันยิ่งเคลื่อนกันแรงมากขึ้น
นักวิเคราะห์การเมือง มี 4 เหตุผล ที่เป็นหมากบังคับ ต้องปรับ ครม. ประกอบด้วย
1.หลายกระทรวงงานไม่คืบหน้า ทั้งที่โจทย์ใหญ่ของ “เพื่อไทย” คือการกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมทั้งปรับปรุงงานกระทรวง ทบวง กรม ให้กลับมาทำงานอย่างแข็งขัน แต่กลับมี “รัฐมนตรี” หลายกระทรวง อยู่ในสถานะ “โลกลืม”
2.วางตัว “รัฐมนตรี” ไม่สอดคล้องกับงาน ต้องยอมรับว่า จุดเด่นของ “นายใหญ่” คือการวางคนให้เหมาะกับงาน แต่ตำแหน่งใน ครม.เศรษฐา 1 เก้าอี้สำคัญหลายกระทรวง ยังไม่ตอบโจทย์การทำงาน
3.โจทย์ใหม่หลังบริหารผ่านไป 7 เดือน โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจ ที่อาจจะต้องรื้อกันใหม่ อาทิ กระทรวงการคลัง “เศรษฐา” เตรียมสละเก้าอี้ขุนคลัง เลือกคนเหมาะสมมาคุม กระทรวงพาณิชย์ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เจ้ากระทรวง อาจจะถนัดงานกระทรวงมหาดไทยมากกว่า
4.เปลี่ยนตัวผู้เล่นใหม่ ตอบแทนนักการเมือง โดยมี “ขุนพลเพื่อไทย” อีกหลายคนที่ “นายใหญ่” มีสัญญาใจจะต้องตอบแทนด้วยเก้าอี้ “รัฐมนตรี” เนื่องจากอยู่กับพรรคไม่เคยจากไปไหน แม้จะอยู่ในช่วงยากลำบาก
ขณะเดียวกัน จับอาการ “รัฐมนตรี” ที่รู้ตัวว่ามีโอกาสหลุดเก้าอี้ ทั้งหมดอยู่ในลิสต์ร่วมงานเลี้ยงต้อนรับ “ทักษิณ” ปิ๊กบ้านเชียงใหม่ เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยเฉพาะ พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรายแรกๆ ที่มีชื่อถูกขับพ้นครม. แต่ล่าสุด กรณีของ “พวงเพ็ชร” มีกระแสข่าวว่า “แบ็คอัพ” ขาใหญ่ ยังสนับสนุนให้ไปต่อ
เกรียง กัลป์ตินันท์ รมช. มหาดไทย แทบจะไม่มีผลงาน เนื่องจาก โดนรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย คอนโทรลงานคลองหลอดเบ็ดเสร็จ แถมยังต้องเจออิทธิฤทธิ์จาก “บิ๊กข้าราชการ” คอยขวางลำ
ไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ โดนรัศมีของ “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กลบเสียมิด มีการเปิดศึกชิงอำนาจกันในทางลับหลายครั้ง แต่ “ไชยา” ตีไพ่หมอบ ไม่อาจสู้พาวเวอร์ของ “ผู้กองมนัส” ได้ ผลงานจึงไม่ปรากฎ
ทั้งหมดคือ “3 รัฐมนตรี” ในงานเลี้ยง “3 นายกฯ” ที่ถูกมองว่า สุ่มเสี่ยงจากการหลุดเก้าอี้รัฐมนตรี จึงจำเป็นต้องปรากฎตัวให้ “นาย”เห็น
สำหรับโผปรับ ครม. โฟกัสหลักไปที่กระทรวงการคลัง โดยมีชื่อ “พิชัย ชุณหวชิร” ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ประธาน ก.ล.ต. มีสายสัมพันธ์แน่นปึ้กกับ “ตระกูลชินวัตร” เป็นตัวเต็ง แม้จะมี “บิ๊กเนม” หลายคนต้องการสอดแทรก แต่แรงหนุนจาก “นายหญิงพลัดถิ่น” อาจจะช่วยส่งให้ “พิชัย” ไปถึงฝั่งฝัน
“เผ่าภูมิ โรจนสกุล” เลขานุการ รมว.คลัง เคยมีชื่อในโผ ครม.เศรษฐา 1 แต่มี “บิ๊กเนม” แนะนำให้มาทดลองงานในตำแหน่งเลขานุการ รมว.คลัง ก่อน เพราะหากเร่งโตเกินไป จะเกิดผลด้านลบ
รมต.ประจำสำนักนายกฯ มีชื่อโยก “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง มารับตำแหน่งดังกล่าว ขณะเดียวกันมีชื่อ “ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” สส. กทม. หนึ่งเดียวที่ฝ่ากระแส “สีส้ม” เข้าสภาฯมาได้ และ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” สส. บัญชีรายชื่อ มือกฎหมายของพรรคเพื่อไทยนอกจากนี้มีกระแสข่าวเปลี่ยนกระทรวง โดยให้ “สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ลูกสาว “กำนันป้อ” วีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ไปนั่งเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม แทนที่ “เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” โดยมีโอกาสสลับให้ “เสริมศักดิ์” มานั่ง รมว. ท่องเที่ยวและกีฬาขณะเดียวกันก็มีชื่อ “จุลพันธ์” เป็นหนึ่งในตัวเลือก
อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวคิดขอแลกกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กับ กระทรวงแรงงาน ซึ่งอยู่ในโควตาของพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากพรรคเพื่อไทยต้องการสร้างผลงานค่าแรง 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570 ซึ่งหากตกลงกันได้ มีโอกาสเช่นกันที่ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” จะถูกโยกไปนั่ง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ เริ่มมีกระแสข่าวปลด “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ โดยมีชื่อ “สุชาติ ชมกลิ่น” สส.บัญชีรายชื่อ ถูกชงมาเป็นตัวเต็ง โดยมี “ดวงฤทธิ์ เบญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง” สส.บัญชีรายชื่อ และ กลุ่มสุราษฎร์ธานี เป็นตัวสอดแทรกรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความเคลื่อนไหวของ “ทีมหลังบ้าน” ของ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทรัพยากรฯ เตรียมสลับออกมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีเอง
รมช.พาณิชย์ ในโควตาของพรรคพลังประชารัฐ ก่อนหน้านี้มีชื่อ “ไผ่ ลิกค์” สส.กำแพงเพชร เป็นตัวเต็ง ทว่ากลับมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ทำให้ชวดร่วม ครม.เศรษฐา 1
เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน โควตา “ไผ่” อาจจะโดนยึดให้คนอื่น โดยมีชื่อ “อนันต์ ผลอำนวย” สส.กำแพงเพชร “ปริญญา ฤกษ์หร่าย” สส.กำแพงเพชร ซึ่งอยู่ในสายของ “วราเทพ รัตนากร” ถูกส่งเข้าชิง และยังมีชื่อ “อรรถกร ศิริลัทธยากร” สส.ฉะเชิงเทรา สายตรงลุงป้อม เป็นตัวสอดแทรก
ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหวของการปรับ ครม. ซึ่งต้องเดาใจ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” จะส่งสัญญาณปรับในช่วงใด เช่นเดียวกับ “เศรษฐา” ที่พร้อมสละเก้าอี้ รมว.คลัง จนอาจจะเป็นตัวเร่งให้ปรับครม. เร็วขึ้น
ทั้งหมดคือสถานการณ์ร้อนที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด !