“เศรษฐา” ยันไม่ได้นัด “ทักษิณ” ชี้ ภารกิจแน่น แต่ถ้าว่างอาจได้พบกัน

นายกฯ ยันไม่ได้นัด “ทักษิณ” ที่เชียงใหม่ ชี้ หากเวลาตรงกัน คงได้พบ ไม่หวั่น ฝ่ายค้านนำ จ่อยกประเด็น ซักฟอก พร้อมแจงสภา ยัน อดีตนายกฯ ออกมาตามกฎหมาย เตรียมให้ทีมงานร่วมแถลงผลงาน ทัวร์ตปท.

วันที่ 11 มี.ค.2567 เวลา 11.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 16 มี.ค.นี้จะได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า ตารางของตนแน่นแล้ว ไม่ได้นัดหมายอะไรกัน เว้นเสียแต่ว่าจะไปทานข้าว หากว่างก็จะไป เพราะภารกิจของตนแน่นอยู่แล้ว ต้องไปดูเรื่องของไฟป่าที่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต้องมีการให้รางวัลนำจับกับผู้ที่ชี้เบาะแสคนเผาป่า ซึ่งฝ่ายความมั่นคงทางทหาร ตำรวจ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่

ต่อข้อถามว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลยกให้ จ.เชียงใหม่ เป็นโมเดลในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและจุดความร้อนได้สำเร็จแต่ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่พีคที่สุดแต่ ณ ปัจจุบันคือวิกฤติของจริงทั้งเรื่องฝุ่นและจุดความร้อนนั้น นายกฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็คือความจริงเช่นกัน เพราะรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้จุดความร้อนลดลงถึง 4 เท่า แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่พีคจริงๆ ฉะนั้นต้องเปรียบเทียบกับช่วงที่พีคกับพีคเหมือนกันว่าปัจจุบันดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลก็ดำเนินการทุกอย่างก้าวหน้าไปด้วยดี.

เมื่อถามกรณีที่ฝ่ายค้านจะนำเรื่องนายทักษิณไปอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 นั้น นายกฯกล่าวว่า ฝ่ายบริหารมีหน้าที่ตอบข้อซักถามของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ได้กังวลเพราะเป็นไปตามกฎหมาย นายทักษิณก็ออกมาตามกฎหมายทุกอย่าง เราก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายอะไรกับใครทั้งสิ้น ถ้าเกิดมีเรื่องข้องใจอันใดก็เป็นไปตามกลไกการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยืนยันว่าพร้อมที่จะชี้แจงทุกเรื่องและรัฐมนตรีทุกคนก็พร้อมที่จะชี้แจงเช่นกัน ขณะนี้รัฐบาลพยายามเร่งทำงานทุกอย่างและกลางเดือน มี.ค.นี้จะแถลงว่าการเดินทางไปต่างประเทศมีผลงานอย่างไรบ้าง รวมถึงการลงทุนของแต่ละบริษัทคืบไปถึงขั้นตอนใด ประชาชนจะได้สบายใจ ขณะเดียวกันจะได้วางแผนการรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย

และเมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ว่านายกฯเดินทางต่างประเทศแต่ไม่มีผลงาน นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ขอตอบ เพราะเป็นเพียงวาทกรรมทางการเมือง ผลงานรัฐบาลมีหรือไม่ขอให้ประชาชนตัดสินใจ และขอโอกาสให้ทีมงานได้อธิบายการเดินทางลงพื้นที่ในประเทศและต่างประเทศเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งเรื่องเอเปค การประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย, อาเซียน-ญี่ปุ่น ที่ไม่ไปร่วมไม่ได้ เมื่อเดินทางไปแล้วจึงใช้โอกาสพบปะภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ โดยให้เกียรติทีมงานเป็นคนตอบเพราะเป็นความภาคภูมิใจ ไม่ใช่เพียงนายกฯแถลงคนเดียว ยืนยันว่าตนไม่ห่วง เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือว่าไม่ทราบ แต่เดี๋ยวจะทราบว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง