“สรรเพชญ”ฝากรบ.ต้องจริงใจ แก้จชต. อย่าลองผิดถูก คิดว่าเป็น “โจรกระจอก”

“สรรเพชญ บุญญามณี” ฝากการบ้าน “รัฐบาล ต้องจริงใจและกล้าตัดสินใจพัฒนาสามจังหวัดชายแดนใต้” ชี้ “ความผิดพลาดของรัฐบาลในอดีต คือ อุทาหรณ์สอนใจผู้มีอำนาจในปัจจุบัน” เตือน อย่าลองผิด ลองถูก เหมือนคำว่า “โจรกระจอก” ในอดีต

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับ การตรวจราชการในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 27 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 ว่า “ตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ภาคใต้ รู้สึกยินดีที่นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นทางการ และคาดหวังรัฐบาลจะจริงจังและจริงใจ พัฒนาพื้นที่สามจังหวัดได้ตรงจุด เพื่อดึงศักยภาพทางเศรษฐกิจ และสันติภาพในพื้นที่ให้กลับคืนมา

“ยินดีครับ ที่ท่านนายกฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการ ติดตามสภาพปัญหาต่าง ๆ ของพี่น้องสามจังหวัด ผมอยากฝากให้รัฐบาล เร่งแก้ไขปัญหาเรื่องคุณภาพชีวิต การพัฒนาพื้นที่แก้ปัญหาความยากจน ส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้สามารถกลับมาสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างเม็ดเงินได้อีกครั้ง เพราะนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ความไม่สงบในพื้นที่เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน เราต้องยอมรับว่าการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของพื้นที่ได้หยุดชะงักลง สำหรับก้าวต่อไปในการพัฒนาพื้นที่สามจังหวัดในเวลานี้ ผมเห็นว่าเราต้องดูต้นทุนของพื้นที่ และ กล้าที่จะตัดสินใจ สนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ ผมคิดว่าความโดดเด่นของสามจังหวัด คือ เป็นพื้นที่ที่ความหลากหลาย ซึ่งผสมผสานทางอารยธรรม ไทย มาเลเซีย จีน และ มลายู สามารถพัฒนาไปสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางอารยธรรมได้ นอกจากนี้ ในพื้นที่ซึ่งประกอบด้วยระบบเกษตรกรรม ปศุสัตว์ ของพี่น้องชาวมุสลิม ตรงนี้เอง หากภาครัฐ และเอกชน กล้าลงทุน เราก็จะสามารถพัฒนาพื้นที่สามจังหวัด เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางอาหาร ต่อยอดเป็นครัวมุสลิมของโลกได้ ดังนั้น ตอนนี้ ผมจึงเห็นว่าการพัฒนาทางเศรษฐกิจในสามจังหวัด คือ การหาแหล่งทุนให้กับพื้นที่ รวมทั้ง ระบบเทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ ด้วย” นายสรรเพชญ กล่าว

ขณะเดียวกัน ยังตั้งข้อสังเกตว่า งบประมาณในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา สูงกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งเน้นงานด้านความมั่นคงเป็นหลัก ไม่ให้ความสำคัญกับการลงทุนทางเศรษฐกิจ สวัสดิการทางสังคม ส่งผลให้ประชาชนสามจังหวัด ยังมีความยากจนแร้นแค้นทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การพัฒนาพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ประสบความสำเร็จนั้นย่อมขึ้นอยู่กับนโยบาย และความชัดเจนของฝ่ายการเมือง รวมทั้ง รัฐบาลที่จะต้องเข้าใจความแตกต่างหลากหลายของพื้นที่เป็นสำคัญด้วย พร้อม แนะ นายเศรษฐา ให้ดูบทเรียนความล้มเหลวของการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ ของรัฐบาลในอดีตเป็นตัวอย่าง เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้มีอำนาจรัฐไม่ทำผิดซ้ำรอยเดิม ไม่เอาความมั่นคงของประเทศมาลองผิด ลองถูก เหมือนโจรกระจอกในอดีต

“ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา เราใช้เงินไปกว่า 5 แสนล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งงบฯไปลงที่หน่วยงานความมั่นคงเป็นส่วนใหญ่ งบฯลงทุนทางเศรษฐกิจ การศึกษา มีน้อยมาก เราจึงไม่แปลกใจทำไม สามจังหวัด จึงขาดโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ไปในช่วงที่ผ่านมา ทั้งที่มีความพร้อมด้านทรัพยากรอยู่อย่างมากมาย สำหรับการพัฒนาพื้นที่สามจังหวัด จะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใดนั้น ย่อมขึ้นกับความเอาจริงเอาจังของรัฐบาล ที่สำคัญ คือ นโยบาย มาตรการต่าง ๆ จะต้องตั้งอยู่บนเงื่อนไขของความเข้าใจ ความแตกต่างความหลากหลายของพื้นที่ด้วย” นายสรรเพชญ กล่าวทิ้งท้าย