“แพทองธาร” เผย “ทักษิณ” สุขภาพใจดีขึ้นมาก รอมีตติ้งลูกพรรค ถอนหายใจแรง หยุดขยี้ปมนายกฯ 2-3 คน ปล่อยให้ นายกฯ นิดทำงาน วอนสื่อ ไม่เฝ้าหน้าบ้าน รอ VIP ค่อยมา ดินเนอร์วันนี้แค่ 5 คน พ่อแม่ลูก ไร้เขยสะใภ้
วันที่ 25 ก.พ.2567 เวลา 16.52 น. ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า สมาชิกครอบครัว “ชินวัตร” ทยอยเดินทางเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อรอร่วมรับประทานอาหารเย็นกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเริ่มจาก “เอม” น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซึ่งเดินทางมาโดยรถตู้เบนซ์สีขาวทะเบียน 9 กย 59 จากนั้น “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) มาถึงในเวลา 16.57 น. ขณะที่เวลา 17.25 น. “คุณหญิงอ้อ” คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เดินทางมา ด้วยรถตู้เบนซ์ ป้ายทะเบียน 4 ขท 2566 และ 17.46 น. “โอ๊ค” นายพานทองแท้ เดินทางมาเป็นคนสุดท้าย ด้วยรถตู้เลกซัสสีขาว ป้ายทะเบียน วห 8888
น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้ตนต้องใส่แมสก์ เพราะติดเชื้อไข้หวัดมาจากลูก ระหว่างทานข้าวก็จะไม่เปิดแมสก์ เพราะอาจทำให้ติดคนอื่น ส่วนบรรยากาศการรับประทานอาหารของครอบครัว ยืนยันว่าไม่มีอะไรเลย ไม่มีการเมืองทั้งสิ้น และกำลังงงว่าทานข้าวกับครอบครัวก็เป็นข่าวด้วย ปกติก็พยายามจะรับประทานอาหารร่วมกันสัปดาห์ละหนึ่งวันอยู่แล้ว หากวันอาทิตย์ไม่ได้ก็เป็นวันธรรมดา
เมื่อถามว่า มีเมนูอะไรที่เตรียมให้คุณพ่อหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะคุณพ่อ เตรียมให้ ก่อนจะฝากบอกสื่อว่าไม่ต้องรอหรอก หากนักข่าวทราบว่า มีวีไอพี ค่อยมา ดีหรือไม่ เพราะในซอยค่อนข้างเล็ก และมีชาวบ้านเดินทางไปมา ซึ่งก็จะสร้างความลำบากนิดหนึ่ง เข้าใจว่าจะมาตามข่าว แต่ก็เกือบอาทิตย์แล้ว และเชื่อว่านักข่าวไม่น่าจะพลาดวีไอพี เพราะนักข่าวทราบก่อนตนอีก ฉะนั้น ขอความร่วมมือว่าวันที่มีวีไอพีมาค่อยมาดีกว่า จะได้ไม่กวนกัน ส่วน เมื่อถามต่อว่า มีเมนูอะไรที่คุณพ่ออยากทานเป็นพิเศษ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มั่นใจว่าน่าจะเป็นอาหารไทย ตนเดาเอา และเดี๋ยวจะถ่ายลงในไอจีสตอรี่ให้นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ยังอัปเดตอาการของนายทักษิณว่า คุณหมอแนะนำว่าอย่าเพิ่งไปไหน ให้พักจะดีที่สุด แต่สิ่งที่ตนสังเกตคือตอนที่คุณพ่อโทรมา ตนรู้สึกว่าเสียงสดใส ซึ่งไม่ได้ยินมานานจริงๆ และรู้สึกว่าเขาคงสบายใจขึ้น คนเป็นลูกดีใจอยู่แล้วที่จิตใจพ่อดูดีขึ้น ทั้งนี้ จริงๆ พ่อเป็นคนที่แอ็กทีฟมาก การไปอยู่ที่เดิมนานๆ เขาซัฟเฟอร์แน่นอน ซัฟเฟอร์มากๆ และยังบอกว่าได้ขึ้นบันไดครั้งแรก บอกเจ็บขา ก็ต้องพยายามเพราะเหมือนถูกจำกัดที่มานาน ต้องปรับตัว แต่จิตใจดี
ส่วนที่มีมวลชนอยากเจอนายทักษิณนั้น น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่า ยังไม่มีแผนอะไรในเวลาอันใกล้ แต่คิดว่าเขาคงอยากเจอแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดงหรือใครก็ตามที่เคยสนับสนุนคุณพ่อ หากโอเคเมื่อไหร่ก็จะค่อยๆ ทยอยเจอ ส่วนสัปดาห์หน้าจะเปิดให้ใครได้เข้าพบหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบคิว ก่อนแซวผู้สื่อข่าวว่า “มีแหล่งข่าวอะไรหรือไม่บอกเราบ้าง”
เมื่อถามว่า นายทักษิณมีแพลนจะทำอะไรการเมืองต่อจากนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยอะไรเรื่องการเมือง แต่ตนในฐานะหัวหน้าพรรคพท. อยากให้คุณพ่อได้เจอคนในพรรคบ้าง เจอกันในเรื่องของทางใจ เพราะคิดว่าทุกคนคิดถึง แต่จะเป็นเมื่อไหร่ยังไม่ทราบ รอก่อน
เมื่อถามต่อว่า จะพาลูกพรรคมาหาที่บ้านหรือพาไปที่พรรค น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จริงๆ ไม่ติด เอาที่คุณพ่อสะดวก หากคุณพ่อไปพรรค ก็จะได้รู้ว่าตนนั่งทำงานที่ไหน ส่วนจะเปิดบ้านให้มวลชนคนเสื้อแดงเข้าพบหรือไม่นั้น ขณะนี้ตนห่วงเรื่องโรคติดต่อ ขอให้รอสักพักดีกว่า รอให้คุณพ่อมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้นก่อน ส่วนอาการดีขึ้นหรือไม่นั้น ทางร่างกายโอเค จิตใจก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกว่าเขามีกำลังใจมากขึ้น
เมื่อถามถึง กรณีที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์เรื่องข้อเอ็นเปื่อยยุ่ย น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่าเป็นโรคคนแก่ จังหวะที่ต้องผ่าเพราะทำของหล่นจากมือ ไม่ได้ล้มหรือเกิดอุบัติเหตุอะไร เขาก็พูดเลยว่าก็แก่ ตนก็สงสาร เพราะผ่านาน ส่วนบรรยากาศที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มาพบคุณพ่อนั้น ตนไม่ทราบ เพราะเฝ้าลูกอยู่ ลูกไข้ขึ้น และนักข่าวรู้ก่อน
ส่วนมีแขกคนไหนที่คุณพ่ออยากเจอมากที่สุด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อยากเจอญาติๆ และยืนยันว่าวันนี้คุณแม่มาด้วย เมื่อถามถึง กรณีที่การวิจารณ์นายกรัฐมนตรีสองคนภายหลัง นายเศรษฐา เข้าพบนายทักษิณ น.ส.แพทองธาร ถอนหายใจยาว ก่อนตอบคำถามว่า ตอนคุณเศรษฐาเพิ่งขึ้น อยู่กับตน ก็บอกมีนายกรัฐมนตรีสองคน อยู่กับคุณพ่อก็บอกมีนายกรัฐมนตรีสองคน ขอให้คุณเศรษฐาทำหน้าที่ของเขาไปดีหรือไม่ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้หรือไม่ ส่วนที่ตอนนี้มีกระแสมีนายกรัฐมนตรี 3 คนรวมถึงตนด้วย น.ส.แพทองธาร ถอนหายใจอีกรอบ และกล่าวว่า “อิ๊งค์เป็นแม่ที่ลูกเป็นไข้อยู่ค่ะ”
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า สำหรับการรับประทานอาหารเย็นของครอบครัวชินวัตร เย็นวันนี้มีเพียงสมาชิกครอบครัว 5 คนเท่านั้น คือ คุณพ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร) คุณแม่ (คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์) นายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา และตน ไม่มีเขยสะใภ้และหลานๆ ซึ่งเป็นความต้องการของคุณพ่อ ที่อยากจะย้อนความทรงจำในบ้านหลังนี้ ในอดีต ที่ครอบครัวอยู่และเติบโตมาด้วยกันมากกว่า 17 ปี