“เศรษฐา” เผยพบ “ทักษิณ” ไม่ได้คุยการเมือง นอกจากเรื่องสุขภาพ ส่วนจะตั้งนั่งที่ปรึกษาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอนาคต ย้ำพร้อมคุยอดีตนายกฯทุกคน มองต้องเปิดใจกว้าง แย้มเข้าเฝ้าฯงานวันมาฆะฯ อาจได้คุยกับ “บิ๊กตู่”
วันที่ 24 ก.พ.2567 เวลา 14.15 น. ที่บ้านจันทน์ส่องหล้า ซ.จรัญฯ 69 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพัก โดยใช้เวลาเข้าพบประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมง
โดยนายเศรษฐา ระบุว่า วันนี้ก่อนมาเข้าพบตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามอธิบดีกรมคุมประพฤติ ว่าสามารถมาเยี่ยมได้ปกติหรือไม่ เพราะเป็นวันเสาร์ เมื่อช่วงเช้าตนติดตามงานอยู่ที่บ้าน ก็เลยคิดไว้ว่าจะมาเยี่ยมเยียนท่าน ก่อนจะไปภารกิจตรวจเยี่ยมบ้านพักข้าราชการทหาร และ เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช 2567 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง
ต่อข้อข่าวถามว่า นายทักษิณ ได้ให้คำแนะนำในการทำงาน หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้มีพูดอะไรกันมากขนาดนั้น เพราะท่านยังมีอาการเจ็บที่แขน แต่เริ่มขยับได้บ้าง เชื่อว่าอาการคงดีขึ้น เพราะมีความสุขที่ได้กลับบ้าน หลังไม่ได้อยู่มานาน 17 ปี สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสดี อารมณ์ดี ซึ่งนายทักษิณ เป็นนายกฯ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เมื่อถามว่านายทักษิณ มีความกังวล หรือ ห่วง การทำงานของรัฐบาลบ้างหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ได้ห่วงอะไร ไม่ได้บอกอะไร ไม่ได้มาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตน ไม่มี แต่ได้ให้กำลังใจ
“ท่านทักษิณอายุ 74 ปีแล้ว แก่กว่าผม 1 รอบ ท่านทำงานหนักมา ก็ป่วย และท่านก็บอกนายกเอง ก็ต้องดูแลสุขภาพด้วยเหมือนกัน เพราะทำงานหนัก ซึ่งชี้ให้เห็นว่าชีวิตมีมากกว่าการทำงาน มาทำงานตรงนี้แล้วเราเสียสละ มีความหวังของพี่น้องประชาชนเยอะ ก็ต้องทำงานให้หนัก อันนี้เป็นความคิดของผม แต่นายทักษิณก็บอกให้ผมพักบ้าง เห็นแต่ข่าวทำงานหนักเหลือเกิน”
เมื่อถามว่ามีการพูดคุยเรื่องการเมือง เรื่องพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่มี เรื่องพรรคร่วมไม่มีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเมือง ท่านเองก็ทราบดีอยู่แล้ว ว่าผมสนิทกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็มีการต่อสายพูดคุยกัน เพราะในสัปดาห์หน้า ตนจะเดินทางไปประชุม อาเซียนออสเตรเลีย ที่นครเมลเบิร์นออสเตรเลีย ก็จะพูดคุยกัน ซึ่งนายทักษิณก็บอกว่า สนิทกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเช่นกัน และรู้จักมาก่อนตนอีก
เมื่อถามว่าในอนาคตจะมีโอกาสให้นายทักษิณ มาช่วยงานรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน วันนี้ขอให้ท่านรักษาตัวท่านเองก่อนดีกว่า จุดมุ่งหมายหลักคือให้ ร่างกายของท่านกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์ ดีกว่า ให้กลับมาใช้ชีวิตปกติได้
เมื่อถามว่าหากดูจากสภาพร่างกายของนายทักษิณ คาดว่าประมาณกี่เดือน กว่าที่นายทักษิณ จะหายเป็นปกติ นายกฯ ตอบด้วยน้ำเสียงแข็งๆว่า “ผมไม่ใช่หมอ ก่อนที่จะตอบเสียงอ่อนลงว่า ผมก็ถาม ท่านก็บอกว่าดีขึ้น ไหล่ก็พอขยับได้ ผมก็เห็นสีหน้าท่านยิ้มแย้ม แจ่มใสที่ได้กลับมาบ้าน ก็ไม่อยากละลาบละล้วง”
เมื่อถามว่าเท่าที่ดูนายทักษิณเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บตรงไหน อย่างไร นายกฯกล่าวว่า ก็เหมือนคนป่วย เมื่อถามว่า มีโอกาสจะตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุย ไม่มีโอกาสได้คุยตรงนี้ ไม่ได้คุยการตั้ง หรือจะมาช่วยบ้านเมืองอย่างไร ไม่มีเลย แต่ท่านก็มีความเป็นห่วงบ้านเมือง บอกว่าช่วงนี้ก็เหนื่อยหน่อยนะ ปัญหาเศรษฐกิจมันเยอะ ตนก็ตอบว่า ครับ ก็ยังทำงานต่อไป ไม่ได้หนักใจอะไร เพียงแต่ขอให้ท่านรักษาร่างกายให้ดี
เมื่อถามว่า นายทักษิณ มีความสามารถในการบริหารประเทศ จะมีโอกาสมาช่วยบ้านเมืองอย่างไรหรือไม่ในอนาคต นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องของท่าน แต่ผมมั่นใจว่าเรื่องสำคัญที่สุดของท่าน คือ เรื่องสุขภาพ คนเราเรื่องอื่นไม่สำคัญเท่าเรื่องสุขภาพ มีเงินมีอำนาจมากขนาดไหน ถ้าสุขภาพไม่ดีก็ไม่มีความสุข ช่วงเวลานี้ท่านคง โฟกัสที่เรื่องสุขภาพ ตนก็ฟังจากที่ท่านพูด ว่าอยากกลับมาเป็นคนปกติ กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างน้อยไม่แข็งแรงเหมือนสมัยก่อน แต่ก็เชื่อว่าอยากจะกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติกับครอบครัว และในวันพรุ่งนี้ เห็นว่าครอบครัว ก็จะมาร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน ตนก็ดีใจที่ท่านมีความสุขดี ซึ่งนายทักษิณเอง ก็รับประทานได้เพียงอาหารอ่อน ทานได้เพียงก๋วยเตี๋ยว แต่ไม่ใช่กินได้แต่น้ำซุป
เมื่อถามว่า จะมีโอกาสเข้ามาปรึกษาอีกเรื่อยๆหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า หากมีโอกาสก็จะเดินทางมา ซึ่งแล้วแต่โอกาสและจังหวะ โดยในช่วงสัปดาห์หน้า 2 มีนาคม ตนก็จะลงพื้นที่ จังหวัดร้อยเอ็ด และ กาฬสินธุ์ รวมไปถึง จะไปฟังพระสวดพระอภิธรรมและพระราชทานเพลิงศพ ภรรยา นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็คงได้พบกับท่าน และวันนี้เข้าเฝ้าฯ ไม่แน่ใจว่าจะได้พบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ถ้ามีโอกาสได้เจอ คงได้คุยกัน หากมีข้อกังวลตรงไหนก็จะรับฟังจาก อดีตนายกรัฐมนตรีทุกท่าน
“ผมเชื่อว่าอดีตนายกรัฐมนตรีทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตาม ไม่ว่าจะมาด้วยวิธีไหนก็ตาม ตนเชื่อว่าทุกท่านก็มีความหวังดีกับบ้านเมือง และทุกเรื่องที่แนะนำมาจะทำได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของบริบทในปัจจุบัน มีขีดจำกัดต่างกันไปต่างสมัยกัน แต่เรื่องนี้เราต้องทำใจกว้าง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเมนูอาหารมื้อกลางวันในวันนี้นายทักษิณ ได้รับประทานก๋วยเตี๋ยวน้ำกุ้ง ส่วนตนรับประทานข้าวซอยเนื้อ