“สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้ช่วยผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน เยี่ยมให้กำลังใจ ดูแลบุตรครอบครัว อส. ตาย-บาดเจ็บ จากเหตุโจรใต้บึมรถหุ้มเกราะ ถือเป็นการสูญเสียกำลังพลที่รับผิดชอบ ทุ่มเท มุ่งมั่น
วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่วัดประสิทธิ์ประชาราม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้ช่วยผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นาย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เดินทางเข้าเคารพศพ สมาชิกเอก อรรถพร ประทีป และ เดินทางต่อไปยังบ้านพักของ สมาชิกเอก นัสรุดดิน มะดีเย๊า สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอจะแนะที่ 8 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถหุ้มเกราะ พื้นที่อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อให้กำลังใจครอบครัว พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 600,000 บาท จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กองทุนช่วยเหลือบุคลากรฝ่ายปกครองที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ และเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิอาสารักษาดินแดนในพระบรมราชินูปถัมภ์
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบเครื่องหมาย “รักษาดินแดนยิ่งชีพ” แก่ครอบครัวสมาชิก อส. ที่เสียชีวิต โดยนาย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย อ่านประกาศเกียรติคุณ กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ความว่า กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ขอประกาศเกียรติคุณว่า สมาชิกเอก อรรถพร ประทีป สมาชิกเอก นัสรุดดิน มะดีเย๊า ได้ประกอบคุณงามความดี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมานะบากบั่น อดทน และเสียสละอย่างสูง จนบังเกิดผลดีต่องานอาสารักษาดินแดนและประเทศชาติเป็นส่วนรวม สมควรแก่การยกย่องสรรเสริญ กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดนจึงพิจารณามอบเครื่องหมาย “รักษาดินแดนยิ่งชีพ” เพื่อเป็นเกียรติยศสืบไป
เวลาต่อมา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง และคณะ ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลจะแนะ เพื่อเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ สมาชิกเอก บิสมี สาแม และ สมาชิกตรี อิมรอน เจ๊ะอามะ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอจะแนะที่ 8 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดดังกล่าว พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวได้รับบาดเจ็บ จากกองทุนช่วยเหลือบุคลากรฝ่ายปกครองที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ รายละ 10,000 บาท และเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิอาสารักษาดินแดนในพระบรมราชินูปถัมภ์ รายละ 10,000 บาท
จากนั้น ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ สมาชิกโท ไซดี แยนา สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอจะแนะที่ 8 ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดดังกล่าว พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือบุคลากรฝ่ายปกครองที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ 30,000 บาท และเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิอาสารักษาดินแดนในพระบรมราชินูปถัมภ์ 20,000 บาท
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน (อส.) สังกัดกองอาสารักษาดินแดนอำเภอจะแนะที่ 8 บนถนน 4217 ช่วงบริเวณบ้านกูมุง หมู่ที่ 2 ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ เป็นเหตุทำให้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นการสูญเสียกำลังพลของกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดนจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ทุ่มเท มุ่งมั่น โดยนายกองใหญ่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและให้กำลังใจครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากการปฏิบัติหน้าที่ และสดุดีผู้กล้าที่สละชีวิต อย่างกล้าหาญ พร้อมเป็นกำลังใจให้กับผู้บาดเจ็บ และผู้ปฏิบัติงานทุกคน
“ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และนายอำเภอจะแนะ ดูแลการจัดพิธีศพ รวมถึงการดูแลอำนวยความสะดวกให้กับครอบครัว พร้อมดูแลช่วยเหลือเยียวยา ดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างครบถ้วน พร้อมรับทายาทผู้เสียชีวิตเป็น อส. แทน และมอบทุนการศึกษาแก่ลูกสาวของ อส. ที่เสียชีวิต ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.2 จนจบการศึกษาขั้นสูงสุด สำหรับในส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้จังหวัดนราธิวาสและอำเภอจะแนะ ได้ติดตามการรักษาของผู้ได้รับบาดเจ็บกับสถานพยาบาลอย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต้องติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการฝ่ายปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ไม่ประมาท มีระบบการดูแลสวัสดิภาพควบคู่การปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ หากส่วนใดที่ต้องขอรับการสนับสนุนจากกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง และกระทรวงมหาดไทย ขอให้ได้รายงานไปยังส่วนกลาง เพื่อพิจารณาให้การสนับสนุนด้านต่างๆ เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อันจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มกำลัง” นาย สุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย