ผบ.ตร.รายงาน นายกฯ ขอเวลา ไม่เกิน 2 วัน ออกหมายจับ ถอนประกัน ม.112 กลุ่มป่วนขบวนเสด็จ ชี้ เป็นขบวนการในประเทศ มีคนอยู่เบื้องแนะเลี่ยงข้อกฎหมาย ลั่น ตำรวจทุกนายถวายความปลอดภัยด้วยชีวิต
วันที่ 12 ก.พ.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงการเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.การคลังว่า นายกฯเรียกไปพบพร้อมกำชับ เรื่องการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ ถ้ามองในมุมคนนอกก็ห่วงที่เหมือนมีช่องว่าง แต่ขอให้เชื่อว่าขบวนเสด็จมีการวางระบบไว้ค่อนข้างดี แต่เราไม่สามารถบอกได้เพราะคนจะทราบหมดว่ามีการวางไว้อย่างไร
ได้ยืนยันกับนายกฯ การถวายความรักษาความปลอดภัยองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า และพระบรมวงศานุวงศ์ มีการวางระบบ แต่การที่จะมีกลุ่มเห็นต่างเข้ามาแสดงออกลักษณะเช่นนี้ ได้กำชับตั้งแต่วันแรกว่าเราจะดำเนินคดีตามพยานหลักฐานที่มี โดยไม่ต้องรอให้สื่อมวลชนถาม เพราะบอกหมด
“ผมเชื่อว่าเยาวชนที่ออกมา ไม่ได้ออกมาเอง มีขบวนการที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งขอทางตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน และในวันที่ทำคดีเสร็จทุกคนก็จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีละเอียด ผมได้ย้ำทีมว่าอย่าเร่งทำ เพราะไม่เช่นนั้นจะผิดพลาด ฉะนั้นขอเวลาอีก 2 วัน เดี๋ยวจะเห็นการแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับ ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวจะมีการจับกุมดำเนินคดีอย่างแน่นอน ขณะนี้ ผบช.น.กำลังรวบรวมพยานหลักฐานและเร่งรัด พนักงานสอบสวนให้ดำเนินการ เพื่อปิดข้อครหาทั้งหมดและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เพราะเราไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นโจมตีสถาบันด้วย ยืนยันไม่ได้มีการสั่งการ แต่ดำเนินการตามหลักฐานและขอให้เชื่อมั่นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องการถวายความปลอดภัยพวกเรา ดูแลพระองค์ท่านด้วยชีวิต พวกพี่ดูแลด้วยชีวิตของพวกพี่จริงๆ”
ต่อข้อถามว่าเยาวชน 2 คนที่ก่อเหตุมีคดีติดตัวอยู่จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนของบช.น.กำลังดำเนินการอยู่ ถ้างั้นขอรออีก 2 วันเพื่อให้พยานหลักฐานใหม่ ในการแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น โดยยอมรับว่าจะมีการถอนประกัน
ถามว่าจะออกหมายจับมากกว่า 2 คนหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปฏิเสธการตอบคำถามโดยระบุว่า ขอให้ดำเนินการในเบื้องต้นก่อน และวานนี้ตนก็ได้รายงานนายกรัฐมนตรีไปหมดแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าระหว่างการรอถอนประกันเยาวชน กลุ่มดังกล่าวอาจจะเคลื่อนไหวยังพื้นที่อื่น ผบ. ตร.ระบุว่า เรามีการดูแลติดตามเขาอยู่ และอย่างวานนี้ที่มีเหตุการณ์ปะทะ 2 ฝ่าย เราก็ติดตามดูอยู่ การแสดงพฤติกรรมที่ห้างสรรพสินค้าวันนั้น เห็นได้หลายอย่างว่าเขามีการเตรียมการ ซึ่งยังไม่ได้แสดงอะไรบางอย่าง เหมือนมีการเตรียมการเพื่อไม่ให้ผิดข้อกฎหมายในบางข้อ พร้อมเชื่อว่าเขามีคนที่ให้คำแนะนำ แต่จะมีนักการเมืองอยู่ ด้วยหรือไม่นั้นตนไม่ขอยืนยัน แต่ยืนยันวในทางสอบสวนมีบุคคลช่วยเหลือให้คำปรึกษาและไกด์ไลน์อย่างแน่นอนส่วนจะเอาผิดผู้อยู่เบื้องหลังได้มากน้อยเพียงใดขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ และในทุกการกระทำที่เขาดำเนินการ ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงปฏิกิริยาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความล่าช้า พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ระบุว่า
“โอ้โหอย่างพี่เหรอไม่เอาจริงเอาจัง เรื่องถวายความปลอดภัย น้องก็รู้ว่าพี่ดูแลเรื่องนี้มานานมาก ไม่ต้องห่วงครับ เราบอกแล้ว ข้าราชการทุกคนเป็นข้าราชการในพระองค์ที่ดูแลความปลอดภัย มันเป็นภารกิจข้อแรกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลความปลอดภัย ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ มันเป็นสิ่งที่พวกพี่ต้องทำเป็นข้อแรกเลยของข้าราชการตำรวจ ไม่ต้องห่วง พี่ทำให้ไม่มีข้อครหาและให้ความยุติธรรมทุกฝ่าย”
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวมีการกระทำความผิดซึ่งหน้า ผบ.ตร.ระบุว่า ทางตำรวจสืบ ตั้งแต่ก่อนมีเหตุการณ์ ระหว่างมีเหตุการณ์และหลังมีเหตุการณ์ ไม่ใช่แค่ซึ่งหน้าเท่านั้น ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหาตรงนี้ จะทำให้ข้อกล่าวหาแตกต่างกันมาก และประเด็นดังกล่าวก็อาจจะเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเพิกถอนประกันต่อศาลได้ พร้อมย้ำว่าไม่เกิน 2 วัน ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว
ทั้งนี้ ผบ.ตร. ระบุว่าที่ออกมาไม่ได้หิวแสง หรือรังแก และที่ออกมาช้าก็อยากจะทำให้ละเอียด พร้อมย้ำว่าจะไม่มีการหว่านหรือรังแก หากสอบพยานถือใครก็คนนั้น เมื่อถามว่าขบวนการดังกล่าวอยู่เพียงในประเทศ หรือ รวมถึงต่างประเทศด้วยนั้น ผบ.ตร. ระบุว่า มีเพียงในประเทศเท่านั้น โดยในช่วงท้าย ระบุว่าหากพยานหลักฐานสาวถึงใครเราก็จะเรียกมาทั้งหมด และจากการสอบสวนมีแนวทางว่า มีคนช่วยเหลืออย่างแน่นอน ส่วนจะเรียกผู้อยู่เบื้องหลังมาพูดคุยหรือไม่นั้น ผบ.ตร. ยืนยันว่า ขณะนี้ได้รายงานนายกรัฐมนตรีไปแล้วและอยู่ระหว่างการดำเนินการอีกขั้นหนึ่ง