“วรศิษฎ์” เผย “อนุทิน” นำร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประมงฯ ฉบับ ภท. เข้าสภาแล้ว

“วรศิษฎ์” เผย ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประมงฯ ฉบับ “ภูมิใจไทย” เข้าสภาแล้ว แจงหากผ่านสภา ทำให้ชาวประมงนอนหลับฝันดี ไม่ต้องผวา ค่าปรับมหาโหด จนชีวิตล้มละลาย

นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.จังหวัดสตูล กล่าวถึง การอภิปรายร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. ….. เสนอโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับคณะ โดยบรรจุวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันพุธที่ 7 ก.พ. 2567 กฎหมมายดังกล่าวพิจารณาเมื่อสภาสมัยที่แล้ว ด้วยเงื่อนของเวลาทำให้ไม่ทัน กฎหมายก็เลยตกไป พอมาสมัยนี้เราก็เลยดำเนินการเรื่องนี้ต่อ ซึ่งได้เตรียมข้อมูลตั้งแต่เป็นสส. สมัยที่แล้ว รอบนี้เป็นสมัยที่สอง ก็จะมีการตั้งกรรมาธิการเพื่อมาศึกษาปัญหา 2-3 รอบ และได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาแล้วก็ได้ยื่นเข้าสภาฯ ไปในการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งก็จะมีขึ้นในสภาในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.)สำหรับข้อมูลที่ได้รับมาจากทั้งพี่น้องชาวประมงโดยตรง ทั้งในเรื่องของการศึกษาจากคณะกรรมาธิการของสภาแล้วก็รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมประมง ส่วนราชการก็มีการรวบรวมข้อมูลมาทั้งหมดเพื่อที่จะมาปรับเปลี่ยนให้กฎหมายประมงที่เรากําลังจะแก้ ซึ่งตรงกับความต้องการแล้วก็ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

เมื่อถามว่าจะมีการแก้กฎหมายอะไรบ้าง นายวรศิษฎ์ กล่าวว่า หน่วยงานหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประมงมีหลายฉบับ หลายกระทรวง และหลายหน่วยงาน แต่ว่าพรุ่งนี้ตัวกฎหมายที่จะแก้ก็คือ พ.ร.ก.ประมง 2558 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่บังคับในเรื่องของการทําประมง หลักๆ แล้วจะเป็นเรื่องของการเข้าไปดูบทกําหนดโทษ ซึ่งไม่มีความเป็นธรรม เช่น กฎหมายที่ออกมา กลั่นแกล้งประชาชน กฎหมายฉบับนี้เหมาะที่สุดแล้วที่จะใช้คําจํากัดคําว่า คําจํากัดความคํานี้
กับกฎหมายฉบับใหม่ เหมือนหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงประมงหรือว่าไม่เคยทําประมงอาจจะไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณออกเรือไปโดยปกติจะต้องมีการรายงานว่าคุณจะออกกี่โมง ออกไปมีคนงานกี่คน จะกลับเข้ามากี่โมง มีสัตว์น้ำกลับมาเท่าไหร่ ถ้ารายงานผิด คุณโดนปรับ 500,000 หรือการกระทำความผิด ที่โดนบัญญัติไว้ในข้อความผิดร้ายเเรง เรือบางลำก็โดนปรับเป็นหลักร้อยล้าน ถามว่า ควรจะต้องปรับขนาดนั้นหรือเปล่า“สำหรับอาชีพทำการประมงพวกเราก็ทํากันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ แต่ทําไมถึงจะต้องมีการลงโทษที่หนักหนาสาหัสขนาดนี้ ตนไม่ได้ปกป้องคนทําผิดกฎหมาย ที่จะต้องดูแลป้องกันให้คนทําผิดควรจะต้องมีแต่ด้วยมูลฐานความผิดต้องดูด้วยว่าหนึ่งความตั้งใจเขาเป็นแบบไหน มีการตักเตือนก่อนหรือไม่ ปัจจุบันมีเคสที่จะต้องโดนปรับมากกว่าหมื่นเคสแล้ว วงเงินเป็นพันล้านผมว่า พ.ร.บ.ประมงเดิมที่ไม่ได้แก้ไขน่าจะเป็นกฎหมายที่ปรับแล้วได้เงินเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วยซ้ำไป ซึ่งในความเป็นจริง ไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น” นายวรศิษฎ์ กล่าว

นาย วรศิษฎ์ กล่าวว่า ในการแก้กฎหมายฉบับนี้ ถ้าสำเร็จ สภาผ่านการพิจารณา สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ทำอาชีพประมงเขาจะสามารถทําประมง แล้วก็สามารถนอนหลับได้แบบสนิท โดยที่ไม่ต้องผวา ว่าตื่นมาจะโดนโทษอะไร จะโดนปรับกี่ล้าน หรือต้องมานั่งระแวงในทุกการกระทําทุกอย่าง จะทําให้กลับมาใช้ชีวิตแล้วก็ทําอาชีพประกอบอาชีพได้อย่างมีความสุขมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าวันใดวันหนึ่ง เราอาจจะล้มละลายกับความผิดที่มันเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ นี่คือพ.ร.บ.ฉบับพรรคภูมิใจไทย