แกนนำพีมูฟ ขู่จะดำเนินคดีอาญา ผบ.ตร.หากละเมิดมติ ครม.ประกาศกร้าว ปักหลักชุมนุมจนกว่าจะมีการแก้ไขคำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” เป็นผู้ประสานม็อบตามมติ ครม.
เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา “บิ๊กโจ๊ก” พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไป พบกับ นายจำนงค์ หนูพันธ์ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมพีมูฟ ซึ่งได้นำมวลชนมาปักหลักชุมนุมอีกครั้ง โดยมีข้อเรียกร้องให้ มีการดำเนินการสามหัวข้อหลัก คือเรื่องความไม่เป็นธรรมในการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนและเรื่องของการครอบครองสิทธิที่ทำกินแบบมีเงื่อนงำหลังจากพบปะกันที่บริเวณเต็นท์ที่พักของกลุ่มผู้ชุมนุม พลตำรวจเอกสุรเชษฐ พร้อมด้วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เชิญตัวแทนของกลุ่มพีมูฟไปนั่งหารือกันที่กระทรวงเกษตร โดย แกนนำกลุ่มพีมูฟ กล่าวว่า ครั้งที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุม ได้สลายตัวกลับไปก่อน เนื่องจากได้ข้อตกลงเป็นที่น่าพอใจ โดยหนึ่งในนั้นเป็นการขอให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาเป็นแกนในการประสานงานระหว่างรัฐบาลกับผู้ชุมนุม เนื่องจากมองว่าเป็นคนที่เข้ากับประชาชนได้ง่ายและเข้าใจปัญหา ที่สำคัญที่ผ่านมา ก็มีผลงานในการแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชนโดยเฉพาะแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ที่ยึดโฉนดที่ดินที่ทำกินของชาวบ้านไปแต่ล่าสุดพบว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แต่งตั้งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ไม่ใช่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล มาเป็นผู้ประสานงาน ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่านี่ไม่ใช่เงื่อนไข ตามที่ได้ตกลงกันไว้ และไม่เป็นไปตามมติ ครม. ให้ ผบ.ตร. รีบแก้ไข มิฉะนั้นจะดำเนินคดีกับ ผบ.ตร. ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ขัดมติครม. โดยเจตนา และจงใจ
ทั้งนี้ยืนยันว่า รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะมาประสานงานไม่เพียงจะต้องมีประสบการณ์เท่านั้น ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มมวลชนได้ด้วย หากมวลชนไม่เชื่อมั่น ก็คงไม่สะดวกใจที่จะเสนอเงื่อนไขหรือข้อตกลงระหว่างกลุ่มมวลชนกับรัฐบาล และยืนยันจะปักหลักชุมนุมต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ข้อสรุป
ขณะที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุม ชุมนมอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด ไม่ยึดถนนหรือฟุตบาทที่ส่งผลกระทบต่อการจราจร พื้นที่โดยรอบ เพราะอาจได้รับอันตราย และเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลความปลอดภัยด้วย