นายกฯข้องใจ!ปปช. รออะไรปม “ดิจิทัลวอลเล็ต”ภูมิธรรม” จี้คนเห็นต่าง รับผิดชอบ

‘เศรษฐา’รับข้อเสนอ ป.ป.ช.ปม‘ดิจิทัลวอลเล็ต’มาช้า ประชาชนรอไม่ได้ ต้องหาวิธีอื่นรองรับ ไม่ทราบรอความชัดเจนอะไรจากรัฐบาล คาดคุยสัปดาห์หน้า ‘ภูมิธรรม’ย้ำ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’แก้วิกฤต ขู่คนเห็นต่างรับผิดชอบหากเกิดซ้ำรอย‘ต้มยำกุ้ง’

วันที่ 3 ก.พ.2567 เวลา 10.05 น.ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงดิจิทัลวอลเล็ต ว่า จะมีการพูดคุยกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ซึ่งต้องยอมรับว่าจะต้องรอคำเสนอแนะจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งก็รอมานานแล้ว ตนคิดว่าต้องมีวิธีการอื่นรองรับ เพราะคำเสนอแนะยังไม่มาสักที พี่น้องประชาชนเขาคอยไม่ได้

เมื่อถามว่าทาง ป.ป.ช.รอการดำเนินการความชัดเจนจากรัฐบาล และรัฐบาลก็รอขอเสนอแนะจาก ป.ป.ช. จะทำให้ไทม์ไลน์ขยับไปมากหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ค่อยแน่ใจว่า ป.ป.ช.รอรัฐบาลเรื่องอะไร จึงต้องขอสอบถามก่อนดีกว่า อย่าให้พูดไปโดยไม่มีข้อมูล ขอเป็นต้นสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนโดยวานนี้ (2 ก.พ.)ที่ รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า วันนี้สิ่งที่เห็นแตกต่างคือ ส่วนที่เห็นว่าไม่ควรทำอะ ไรเป็นส่วนที่บอกว่าไม่วิกฤต ส่วนที่อยากทำคือส่วนที่เข้าใจว่าวิกฤตคือวิกฤต และที่รัฐบาลกำลังทำครั้งนี้คือยืนยันว่าดิจิทัลวอลเล็ตเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการที่จะทำให้ประเทศที่กำลังวิกฤตอยู่ ได้รับการแก้ไข

“แม้หลายคนจะบอกว่าไม่วิกฤต แต่ผมมองว่าเราเลยคำว่าวิกฤตหรือไม่วิกฤตไปแล้ว จริงๆ วันนี้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือวิกฤตทางการเงิน ซึ่งมาเรื่อยๆ แต่สิ่งที่เขาได้เตือนไว้ก็เป็นเรื่องที่น่าห่วงใย อย่างไรก็ตาม มีนักเศรษฐศาสตร์ตระกูลหนึ่งเคยระบุไว้ว่า หากวันนี้ไม่ทำอะไรที่ลงแรงและไปเพิ่มกำลังซื้อ ไปทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งเหมือนปี 2540 จะกลับมา ซึ่งหากพูดเช่นนี้เราก็ต้องรีบกลับมาทบทวน และคนที่เห็นว่ายังไม่วิกฤต แล้วหากประเทศเกิดวิกฤตขึ้นมาในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเหมือนต้มยำกุ้ง ต้องไม่ใช่แค่วิจารณ์ ถามหาความรับผิดชอบด้วย” นายภูมิธรรม กล่าวและย้ำว่า

ฉะนั้น วันนี้รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาไว้ชัดเจนเรียบร้อยแล้ว และได้หาเสียงกับประชาชนแล้ว ควรเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงาน เดินไป และเรารับผิดชอบต่อนโยบายของเราอยู่แล้ว จึงอยากฝากให้เป็นแง่คิดกับทุกคน ทั้งนี้ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้จะไปอะไรกับใคร แต่เป็นอีกหนึ่งความเห็นที่อยากให้ทุกคนได้พิจารณา ที่จะทำให้ประเทศเกิดประโยชน์และเดินหน้าต่อไปได้