สำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา พร้อมใช้ระบบปฎิบัติการร่วมกัน ในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ หลัง “บิ๊กโจ๊ก” นำคณะร่วมประชุมทวิภาคี ที่ กรุงพนมเปญ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมด้วยคณะ เข้าร่วมประชุมทวิภาคีระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา เพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ ที่ จัดโดยโครงการอาเซียน แอค หรือ ASEAN-Australia Counter Trafficking ณ โรงแรม Sun and Moon Riverside กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยทางฝ่าย ตร.กัมพูชา นำโดย พล.ต.ท.ชิฟ พัลลี รอง ผบ.ตร.กัมพูชา เข้าร่วมประชุมหารือพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ ได้รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยให้ที่ประชุมและทาง ตร.กัมพูชา ทราบ และย้ำว่าปัญหาการค้ามนุษย์ เป็นปัญหาระดับภูมิภาค ที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ดังเช่น ความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ช่วยเหลือเหยื่อส่งกลับประเทศต้นทางซึ่งกันและกัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หรือประเด็นปัญหาที่ปัญหาอาชญากรรมปัจจุบันไม่ได้แยกส่วน แต่รวมกันอยู่เป็นองค์กรอาชญากรรม เป็นอาชญากรระหว่างประเทศ นำผลประโยชน์จากความผิดหนึ่ง ไปต่อยอดการกระทำความผิด รวมถึงการพัฒนาการกระทำความผิดไปอยู่ในโลกออนไลน์ รวมถึงได้ยกตัวอย่างความสำเร็จสำคัญ ๆ ที่ ตร.ไทย ได้ดำเนินการ เช่น การตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาขับเคลื่อนการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยนำเหยื่อค้ามนุษย์เข้ามาร่วมเป็นคณะอนุกรรมการด้วย หรือการแสวงหาความร่วมมือจากสายการบินต่าง ๆ ร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สุดท้ายทาง ตร.ไทย ได้เสนอให้การส่งต่อเคสค้ามนุษย์ต่าง ๆ ต้องทำผ่านเว็บไซต์ที่ทาง ตร.ไทย จัดทำขึ้นมา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการส่งต่อเคสระหว่างประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ร่วมกัน ซึ่งทาง ตร.กัมพูชา ได้ตอบรับความร่วมมือระหว่างกันเป็นอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะการจะดำเนินการสืบสวนจับกุมหมายจับผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ ตามหมายจับและหมายแดงที่ทาง ตร.ไทยได้มอบให้ไว้ จำนวน 22 หมาย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ย้ำให้ทาง ตร.กัมพูชา ทราบว่า ที่ผ่านมานั้น ตนมีความสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวกับ พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.กัมพูชา ที่ ผบ.ตร.กัมพูชา ขอความร่วมมือผ่านแดนมาในอดีตนั้น ตนดำเนินการให้อย่างรวดเร็ว และไม่มีการบ้านค้างกับทาง ตร.กัมพูชา แต่อย่างใด อีกทั้งยังได้ส่งตัวอย่างคำสั่งและแนวทางการขับเคลื่อนการช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อค้ามนุษย์ให้กับทาง ตร.กัมพูชา ได้ศึกษาเป็นแนวทาง เพื่อความสำเร็จในภูมิภาคร่วมกัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังย้ำส่งท้ายในที่ประชุมให้โครงการ ASEAN-Act ทำการประเมินผลการดำเนินการภายหลังการประชุม 3 เดือน หรือ 6 เดือน เพื่อไม่ให้การประชุมสูญเปล่า สิ้นเปลืองงบประมาณ หากชาติวดไม่ดำเนินการตามข้อตกลง ก็
ให้ทำหนังสือทวงถาม การลงนาม MOU จะเป็นเพียงเศษกระดาษ ถ้าลงนามกันแล้ว ไม่ลงมือทำ ไม่ขับเคลื่อนกัน
ท้ายที่สุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้นำคณะเข้าพบ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อหารือการปฏิบัติราชการในต่างประเทศกรณีดังกล่าว เพื่อหากในอนาคตมีสิ่งใดที่ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ จะช่วยประสานงาน ดำเนินการ หรือติดตามงานได้ ก็จะได้เข้าใจบริบทต่าง ๆ ไปในทิศทางเดียวกัน คงความเป็น Team Thailand ที่แน่นแฟ้น แข็งแกร่ง ต่อไป.