‘อธิบดีกรมข้าว’ พร้อม ภรรยา พบตร. ให้ปากคำคดี‘ศรีสุวรรณ-เจ๋ง ดอกจิก’ขู่รีดทรัพย์ 1.5 ล้าน พร้อมมอบหลักฐานที่มีให้ทั้งหมด ย้ำที่ผ่านมาถูกจนท.ตรวจสอบรายละเอียดทุกด้านหมดแล้ว
วันที่ 28 ม.ค.2567 เวลา 16.00 น.นางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร อายุ 49 ปี ภรรยา นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ที่ถูก นายศรีสุวรรณ จรรยา , นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ ข่มขู่เรียกเงินเพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนและถูกดำเนินคดี ได้เดินทางมาพบทางพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป.ภายหลังจากที่มีการนัดหมายเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
นางธัญญรัตน์ เปิดเผยก่อนเข้าให้ปากคำว่า วันนี้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีดังกล่าวเกี่ยวกับวันเกิดเหตุ โดยยืนยันว่ามีพยานหลักฐานค่อนข้างเยอะก่อนจับก็ได้เกือบ 100% อย่างที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวไปมีหลักฐานตามนั้น แต่อาจจะพูดเซฟไปด้วยซ้ำ ความเป็นจริงหลักฐานมีมากกว่านั้นเยอะ และยิ่งวันเกิดเหตุชัดเจนทุกอย่าง ทุกถ้อยคำที่ต้องให้การกับเจ้าหน้าที่ ถามว่าคำกล่าวอ้างว่าไม่ได้เรียกรับเงินนั้น เป็นเรื่องของพวกเขา ส่วนอันนี้เป็นเรื่องของเรา ส่วนคลิปเสียงที่หลุดออกมาพยายามต่อรองนั้น ยังไม่เห็น เนื่องจากทำงานส่วนตัวของตัวเองก็รู้สึกเหนื่อย งานค่อนข้างเยอะเกี่ยวกับการเก็บพยานหลักฐานต่างๆ ไม่ได้สนใจเรื่องตรงนี้
เมื่อถามว่า อธิบดีกรมการข้าว บริสุทธิ์หรือไม่ นางธัญญรัตน์ กล่าวว่า ขอให้ไปดูตามสื่อและตรวจสอบดูพฤติกรรมต่างๆ เกิดขึ้นจริงหรือไม่ และต่อข้อถามว่า ทำไมถึงต้องเรียกรับเงินจากเรานั้น ขอให้ไปถามเขา ส่วนพร้อมที่จะตรวจสอบทุกอย่างหรือไม่ ยืนยันว่า ตนเอาบัญชีมา 20 กว่าเล่มให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบว่า บัญชีมีความผิดปกติหรือไม่
ถามว่า คู่กรณีทั้ง 2 คน ได้ติดต่อกลับมาหรือไม่ภายหลังจากเป็นข่าว ภรรยาอธิบดีกรมการข้าม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีใครติดต่อกลับมาแต่อย่างใด แต่ติดต่อมาระหว่างมีเรื่องดังกล่าว ยืนยันว่าตนเองได้ให้หลักฐานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว หากต้องการขอให้ติดต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะต้องเซฟทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ส่วนจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ แล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการได้เลย แต่ตนเองเชื่อว่าเขาดำเนินการตรวจสอบเรามากกว่าตรวจสอบพวกเขา เพราะกว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบพวกเขานั้น ก็ต้องตรวจสอบเราก่อนหรือไม่ เขาจะไปจับใครสักคนนึงเขาต้องตรวจสอบเราที่เป็นคนร้องก่อนว่ามันเกืดอะไรขึ้น ไม่ใช่จู่ๆ ไปจับมาเลย ต้องมี พ.ร.บ.หรือข้อกฎหมายใดก่อนหรือไม่ เข้าใจว่าเป็นแบบนั้น ตนเองเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก เพราะเขาเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นปัญหาบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานหนักกันทุกคน ไม่ใช่ฟังและเชื่อเลยทันที ต้องทำการตรวจสอบ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรับผิดชอบ