นายกรัฐมนตรี ยันไม่ก้าวก่ายแบงก์ชาติเรื่องลดดอกเบี้ย และไม่ได้โน้มน้าวให้แบงก์ชาติเห็นด้วยกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ชวนผู้ว่าการธปท.ทานกาแฟพูดคุยทุกสัปดาห์
วันที่ 10 ม.ค.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เชิญ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จิบกาแฟยามบ่าย อัพเดทสถานการณ์เศรษฐกิจ-การเงิน ท่ามกลางกระแสข่าวร้อนถึงความเห็นที่ไม่ค่อยตรงกันเกี่ยวกับการขับเคลื่อนนโยบายทางด้านการเงิน เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจไทย ภายใต้การกำกับดูแลของแบงก์ชาติ โดยมีรายงานว่านายกฯ-ผู้ว่าฯ ปิดห้องหารือกันนานกว่า 30 นาที
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า นายกฯ และ ผู้ว่าฯ ธปท. นั่งคุยกันอย่างชื่นมื่น เป็นปกติ โดยวาระสำคัญมีหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ รวมไปถึงการอัพเดทสถานการณ์ด้านนโยบายการเงิน และดอกเบี้ยนโยบาย รวมไปถึงเรื่องการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญของรัฐบาลที่พยายามกำลังเร่งหาทางแก้อยู่ในปัจจุบัน
โดยนายกฯ ได้รับทราบรายงานจากผู้ว่าฯ ธปท.เรื่องของดอกเบี้ยนโบาย ซึ่งนายกฯ ก็รับทราบสถานการณ์ตามปกติ ไม่ได้มีการไปแทรกแซงอะไร เพราะถือเป็นอำนาจและหน้าที่ของแบงก์ชาติที่กำกับดูแลอยู่ ซึ่ง นายกฯได้แจ้งข้อมูลให้ผู้ว่าแบงก์ชาติรับทราบว่า ที่ผ่านมาได้ไปลงพื้นที่ตรวจราชการ และพบปะพูดคุยกับชาวบ้านมาหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่ก็สะท้อนปัญหาเรื่องของความเดือดร้อนจากภาวะหนี้สิน เพราะที่ผ่านมาแบงก์ชาติอาจไม่ได้ลงไปในพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้าน จึงแลกเปลี่ยนมุมมองเรื่องนี้กัน
นอกจากนี้ยังมี การแก้ไขปัญหาหนี้สิน เพราะหนี้สินครัวเรือนถือเป็นปัญหาใหญ่ เห็นได้จากตัวเลขล่าสุดในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2566 หนี้สินครัวเรือนของไทยมีมูลค่า 16.07 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.6% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน หรือ คิดเป็นสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในของประเทศ (GDP) สูงถึง 90.7%
“นายกฯ และผู้ว่าฯธปท. ได้คุยกันเรื่องหลัก ๆ คือการแก้หนี้ โดยรัฐบาลมีแนวทางอย่างนี้ แบงก์ชาติมีแนวทางอะไร แล้วค่อยเอามาร่วมกันเพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้ในระบบ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลประกาศแก้หนี้นอกระบบไปแล้ว ส่วนหนี้ในระบบยังไม่ได้ประกาศออกมา และนายกฯ ได้ให้การบ้านผู้ว่าฯไปว่า นโยบายแก้หนี้ทั้งหมดจะมีแนวทางอย่างไร ก็ให้เสนอมาอีกครั้ง” แหล่งข่าว กล่าว
ด้านผู้ว่าฯ ธปท. ได้เสนอนายกฯขอให้รัฐบาลช่วยเข้ามาช่วยเหลือเรื่องการสนับสนุนด้านข้อมูลการศึกษาต่าง ๆ ของแบงก์ชาติ ที่เคยได้ทำการศึกษาออกมาแล้ว เพื่อพิจารณาไปบรรจุเอาไว้เป็นนโยบายในการยกระดับรายได้ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและเกษตรกร
ตัวอย่างเช่น โครงการศึกษาด้านการเกษตร แบงก์ชาติมีข้อมูลในด้านนี้หลายเรื่อง ซึ่งสามารถนำมาพิจารณาก่อนจัดทำเป็นแนวนโยบายหรือมาตรการที่สำคัญกับการช่วยเหลือภาคเกษตรของไทยได้ และ นายกฯ ก็ได้รับข้อเสนอเอาไว้ พร้อมทั้งบอกว่า จะหาเวลาไปเยี่ยมแบงก์ชาติ ที่สำนักงานใหญ่บางขุนพรหม เพื่อไปดูโครงการศึกษาต่าง ๆ ของแบงก์ชาติ
“ข้อมูลของแบงกาติมีหลายเรื่องที่นายกฯ สนใจ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลแผนที่เกษตรของแบงก์ชาติ ที่มีข้อมูลเกษตรกรของ ธ.ก.ส. และ ภาระหนี้ของลูกค้าว่า มีข้อมูลโฉนดที่เอามาค้ำประกันไว้ เป็นอย่างไร มีหนี้เท่าไหร่ จะแก้ไขได้ยังไง มีติด NPL หรือมีความเสี่ยงถูกยึดหรือไม่ ข้อมูลเหล่านี้จะเอามาดูได้เพื่อแก้ปัญหาความเดือนร้อนให้เกษตรกร” แหล่งข่าว ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน เปิดเผยภายหลังการหารือ กับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ได้ชวนผู้ว่าการ ธปท. มาทานกาแฟเหมือนที่เราเคยทำกันปกติแต่เดือนที่แล้วเราไม่ได้นัด และได้มีการพูดคุยเรื่องภาพรวมของเศรษฐกิจทั้งเรื่องดอกเบี้ยก็ได้มีการพูดคุยกันมีผลดีผลเสียอย่างไร ดูตลาดปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรบ้าง และตนพยายามจะบอกถึงสถานการณ์ตลาดปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
แต่ตนไม่มีอำนาจในการเข้าไปก้าวก่าย ธปท. รัฐบาลเห็นด้วยทั้งหมด เพราะ ธปท. เป็นองค์กรอิสระในการดูแลนโยบายการเงิน โดยเป็นการพูดคุยเหตุการณ์ในต่างประเทศ สถานการณ์เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง 2-3 เดือน ส่วนความชัดเจนต้องให้ ธปท.แถลงรายละเอียด ส่วนผลการหารือมีแนวโน้มที่ดี เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
“ขณะที่เรื่องความเดือดร้อนของประชาชนด้านหนี้สิน ผู้ว่าการ ธปท. ได้บอกกับตนว่าทำอะไรอยู่บ้าง เช่น เรื่องแก้ไขปัญหาหนี้สินระยะยาว ก็ได้แก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่ ผมจึงบอกว่าเรื่องเหล่านี้เวลาเรามากินกาแฟกันทุกอาทิตย์ฝากผู้ว่าการ นัดมา เป็นที่ ธปท. แล้วให้ผมเข้าไปพบก็ได้ เพราะบางหน่วยงานก็ต้องการงานอื่นด้วย เช่น สหกรณ์ที่ต้องการกระทรวงเกษตรฯเพื่อเข้าพูดคุยด้วย”
ขณะเดียวกันเรื่องโครงการแจกเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ตนไม่ได้โน้มน้าวผู้ว่าการ ธปท. เกี่ยวกับความเห็นของโครงการนี้ เพราะจะต้องการหารือในคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งขณะนี้เลขานุการกำลังนัดประชุมเพื่อให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็นอย่างเปิดเผย ไม่อยากให้พูดคุยกันในที่มืด หวั่นมีข้อครหา และไม่ได้หารือ ไม่มีการตกลงกัน “เศรษฐกิจวิกฤติ” หรือไม่วิกฤติ เพราะหารือภาพเศรษฐกิจโดยรวม และพร้อมทานกาแฟร่วมกันทุกสัปดาห์ หาก ผู้ว่าการ ธปท.นัดมา และพร้อมไปเยี่ยมที่แบงก์ชาติ บางขุนพรหม.