“ชัยชนะ เดชเดโช” ประธานกมธ.ตำรวจฯ ฟาดกลับ “สมศักดิ์ -วิญญัติ” หลังขู่ฟ้อง ลั่นไม่กลัว เดินหน้าบุก รพ.ตำรวจ ตรวจสอบ “ทักษิณ ชินวัตร” ป่วยจริงหรือไม่ ยัน ทำตามกฎหมาย
วันที่ 23 ธ.ค. 2566 นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ระบุ หากกมธ.ตำรวจ จะไปศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ ในเรื่องวิธีการ ขั้นตอน และมาตรการดูแลผู้ต้องขัง กรณีเข้ารับรักษาตัว
รวมถึงเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีอาการป่วยจริงอย่างไร ก็ต้องระวังจะถูกฟ้อง รวมถึงนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ ที่ประกาศว่าจะดำเนินการฟ้องร้องคนที่ต้องการให้เปิดเผยข้อเท็จจริงถึงอาการป่วยของนายทักษิณ
โดยนายชัยชนะ กล่าวว่า ตนเห็นว่าทั้ง 2 กรณี มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ต้องการปกป้องสุดชีวิต และปกปิดไม่ให้สาธารณชนรับรู้ โดยให้เข้าใจเอาเองว่านายทักษิณยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล และกลายเป็นชุดความคิดที่จะสะกดจิตคนไทยทั้งประเทศ
การที่ทางกมธ.ตำรวจ จะเดินทางไปดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็เพื่อสอบถามถึงมาตรฐานการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขัง และสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้กับคนไทย ในวันที่ 12 ม.ค. 2567 นั้น ถือเป็นการทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทย ที่ได้รับเลือกมาตามระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ก็ได้รับรองการกระทำของคณะกมธ.แต่ละชุด ในการสอบหาข้อเท็จจริง
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า กมธ.ตำรวจ มีอำนาจหน้าที่อย่างถูกต้องในการดำเนินการดังกล่าว แต่ตนก็ต้องขอบคุณนายสมศักดิ์ และนายวิญญัติ ในความปรารถนาดีที่เป็นห่วงกลัวว่า กมธ.ตำรวจ และประชาชนที่ต้องการทราบข้อเท็จจริง จะกระทำผิดกฎหมาย
แต่ตนเชื่อว่า หากกระทำการโดยอาศัยอำนาจที่มีตามกฎหมายอย่างซื่อสัตย์สุจริตและตรงไปตรงมาแล้ว ก็จะมีกฎหมายและข้อเท็จจริงคอยคุ้มครองบุคคลเหล่านั้นให้รอดจากภยันตรายและโทษทางกฎหมาย
แต่หากรู้ทั้งรู้ว่าข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเป็นอย่างไร แต่ยังดันทุรังเพื่อช่วยเหลือให้บุคคลคนหนึ่งมีสิทธิมากกว่าคนอื่นๆ จนกลายเป็นคนไม่เท่ากันแล้ว นอกจากจะทำให้เกิดความไม่สบายใจกับตนเองแล้ว ยังจะทำให้ส่วนรวมขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทยด้วย
“ผมไม่ได้แปลกใจที่ทั้งนายสมศักดิ์ และนายวิญญัติ จะใช้วิธีการฟ้องปิดปากกับทางกมธ. และประชาชนที่ต้องการทราบว่า นายทักษิณอยู่ที่ไหน และทำไมยังรักษาตัวไม่หาย ผมคิดว่าบุคคลทั้งสอง ควรจะคำนึงถึงประเด็นสงสัยของประชาชนขณะนี้
มีหลายข้อสงสัยที่ทางกมธ.จะต้องหาคำตอบให้ได้ เช่น นายทักษิณป่วยหนักจริงหรือไม่ ทำไมได้เอกสิทธิ์และอภิสิทธิ์เหนือนักโทษคนอื่น ตกลงแล้วนายทักษิณจะได้กลับเข้าไปเรือนจำเพื่อชดใช้ความผิดหรือไม่” นายชัยชนะ กล่าว
นายชัยชนะ กล่าวว่า กมธ.ตำรวจ มีกำหนดการดูงานและสอบหาข้อเท็จจริงที่โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 12 ม.ค. 2567 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทำหนังสือถึงกรมราชฑัณฑ์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้อำนาจไว้ ไม่ได้กระทำการเกินเลยแต่อย่างใด
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ซึ่งเป็นหน้าที่ของโรงพยาบาลตำรวจและกรมราชฑัณธ์ ว่าจะตอบรับให้ทางกมธ.เข้าไปดูงานและตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ เพราะถ้าไม่อนุญาต ทางโรงพยาบาลตำรวจ กรมราชฑัณฑ์ และผู้เกี่ยวข้อง ก็ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ โดยเฉพาะข้อสงสัยของประชาชน