ก.มหาดไทย เตรียมเสนอ 18 มาตรการเข้า ครม. เป็นของขวัญปีใหม่ประชาชน

กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอ 18 มาตรการ จาก 13 หน่วยงาน จัดให้เป็นของขวัญปีใหม่ 2567 เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชน

วันที่ 17 ธ.ค. 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้หน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทย เตรียมมาตรการที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านขั้นตอนการหารือระดับหน่วยงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เตรียมนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายละเอียดและเริ่มดำเนินมาตรการต่อไป

“หน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทย ทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ได้สรุปมาตรการที่ส่งมอบเป็นของขวัญปีใหม่ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้พี่น้องประชาชน รวมทั้งหมด 18 มาตรการ จาก 13 หน่วยงาน บางมาตรการหน่วยงานได้เริ่มดำเนินการแล้ว และอีกหลายมาตรการจะเริ่มตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นไป”สำหรับตัวอย่างมาตรการที่กระทรวงมหาดไทยจะเสนอต่อ ครม. อาทิ มาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ลดการก่อหนี้นอกระบบ โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดำเนินการผ่านสถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 261 แห่ง ดำเนินการตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2567 โดยกรณีที่ใช้บริการเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท จะไม่คิดดอกเบี้ยใน 3 เดือนแรก หลังจากนั้นคิดร้อยละ 0.25 ต่อเดือน ส่วนหากเงินต้นเกิน 5,000 บาท จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน

ส่วนการประปานครหลวง (กปน.) จัดโครงการตู้น้ำดื่มสะอาดเพื่อชุมชน 72 ตู้ ติดตั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและนนทบุรี ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการมอบของขวัญให้ประชาชน และร่วมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา โดยจะเป็นตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญในราคา 2 ลิตรต่อ 1 บาท และแบ่งรายได้จากการจำหน่ายน้ำให้เป็นรายได้ของชุมชนด้วย

นอกจากนี้ กปน. และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ยังมีโครงการขยายเวลางดตัดน้ำประปา 3 เดือน จากเดิม 2 เดือน สำหรับประชาชนที่ใช้น้ำประเภทบ้านพักอาศัย ซึ่งมียอดรวมของใบแจ้งค่าน้ำต่อเดือนไม่เกิน 150 บาท/เดือน สามารถค้างค่าน้ำได้ไม่เกิน 3 เดือน (3 รอบบิล) โดย กปน. และ กปภ. จะไม่งดการใช้น้ำ ดำเนินการระหว่างพฤศจิกายน 2566 – มกราคม 2567

ขณะที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้เริ่มมาตรการของขวัญปีใหม่ตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 แล้ว คือ การขยายระยะเวลางดจ่ายไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่มีค่าไฟไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน โดยขยายวันครบกำหนดชำระค่าไฟฟ้าจากเดิม 1 เดือน เป็น 3 เดือน ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 – พฤศจิกายน 2567 ซึ่งมาตรการนี้ครอบคลุมประชาชน 7.6 ล้านราย แยกเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าของ กฟน. 600,000 ราย และ กฟภ. 7 ล้านราย

ทางด้านกรมการปกครอง มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน ThaID ต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป จะมีการเพิ่มฟังก์ชันใหม่มอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ประชาชน เป็นบริการแจ้งย้ายทะเบียนบ้านและคัดรับรองเอกสารทางทะเบียน 3 เอกสาร ได้แก่ แบบรับรองรายการบุคคล (ทร.14/1) แบบรับรองรายการประวัติบุคคล (ทร.12/2) และแบบรับรองการเกิด (สูติบัตร) (ทร.1/ก) และตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป จะเพิ่มเติมการแสดงเอกสารบนแอปพลิเคชันอีก 3 เอกสาร ได้แก่ สูติบัตร ทะเบียนสมรส ทะเบียนการหย่า จากปัจจุบันสามารถแสดงได้ 2 เอกสาร คือ บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้าน นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงงานทะเบียนทั่วประเทศ ซึ่งจะมีบริการใหม่ๆ ทันสมัยและรวดเร็ว มอบให้แก่ประชาชนตั้งแต่ปีใหม่ 2567 เป็นต้นไปด้วย

น.ส.ไตรศุลี เผยต่อไปว่า เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่ นายอนุทิน ให้หน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทย ดำเนินกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้ประชาชน ตั้งแต่ปีใหม่ไปถึงเดือนมีนาคม 2567 กรุงเทพมหานครจะจัดโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบสร้างสรรค์เพื่อคนกรุงเทพฯ กรมพัฒนาชุมชนจะเพิ่มช่องทางการขายให้ผู้ประกอบการสินค้าชุมชน ผ่านโครงการ Shop ชุมชนลดทั่วไทยผ่าน Click ชุมชน โครงการ OTOP Giftset : กระเช้าปีใหม่ คนไทยร้องว้าว องค์การตลาด จัดโครงการสร้างรายได้ กระจายโอกาสให้ชุมชนและเกษตรกร

นอกจากนี้ เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น องค์การจัดการน้ำเสียได้มอบหลายโครงการเป็นของขวัญปีใหม่ ได้แก่ มอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมและลานออกกำลังกาย ณ ศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ เทศบาลเมืองแพรกษา จ.สมุทรปราการ มอบแหล่งเรียนรู้พันธุ์น้ำจืด ณ ศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ ต.ลำโพ จ.นนทบุรี พร้อมกับมอบพื้นที่สีเขียวในศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำทุกศูนย์ทั่วประเทศ มอบแหล่งเรียนรู้พันธุ์ปลาน้ำจืด

ในส่วนของกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เฝ้าระวังผลกระทบภัยแล้งต่อประชาชนทั่วประเทศ โดยตั้งแต่ปีใหม่ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2567 ดำเนินโครงการมหาดไทยเติมน้ำ เติมสุข บำบัดทุกข์ ลดภัยแล้ง โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1-18 จะลงพื้นที่สำรวจและกำหนดพื้นที่ประสบปัญหา แล้วจัดเครื่องมือ เครื่องจักร อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบส่งน้ำ ระยะไกล เพื่อสูบน้ำจากแหล่งที่มีปริมาณน้ำมากไปยังแหล่งที่มีน้ำเหลือน้อย เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งต่อไป.