“อุปกิต” เปิดเบื้องลึก! ถูกโยงคดี”ยาเสพติด-ฟอกเงิน” ชี้เป็นขบวนการ “สมคบคิด”

“อุปกิต ปาจรียางกูร” สมาชิกวุฒิสภา ย้ำไร้เอี่ยวคดียาเสพติด-ฟอกเงิน แจงที่มาเกิดจากการโอนเงินผ่านโต๊ะเงินเมียนมา เชื่อเป็นขบวนการสมคบคิดฝ่ายก้าวไกลเพื่อดิสเครดิต ส.ว. เผยจ่อฟ้อง “รังสิมันต์ โรม” เพิ่มรวม 3 คดี “อัจฉริยะ” เจอ 2 คดี ลั่นเอาผิดให้ถึงที่สุดและไม่ให้อภัยด้วย

วันที่ 14 ธ.ค. 2566 นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ร่วมสนทนารายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” หัวข้อ “เปิดเบื้องลึก ถูกโยงคดียาเสพติด-ฟอกเงิน”

โดยกล่าวว่า ตอนนี้คดีผ่านมาปีเศษแล้ว นัดสุดท้ายอัยการสูงสุดนัดตน 26 ธ.ค.นี้ แต่ตนไปให้อัยการสั่งฟ้องคดี 14 ธ.ค. จะเห็นว่าตนเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเองตั้งแต่ต้น ทั้งที่อัยการ คณะกรรมการต่างๆ รวมทั้ง ปส. ตำรวจที่สอบสวน ตนก็เดินไปโดยไม่มีหมายเรียกอะไรทั้งสิ้น เพราะรังสิมันต์ โรม, อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ กล่าวโทษตนที่นั่น ไปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ อยากที่สุดคือเข้ากระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด

นายอุปกิตกล่าวอีกว่า ย้ำว่าปี 62 ก่อนมาเป็น ส.ว.ตนขายธุรกิจออกหมดแล้ว มูลฐานความผิดเกิดขึ้นเมื่อปี 64 จากบริษัทอัลลัวร์ พีแอนด์อี ซึ่งชื่อคล้ายบริษัทที่ตนเคยถืออยู่ จะมี 3 บริษัทที่เกี่ยวข้อง คือ อัลลัวร์กรุ๊ป, เมียนมา อัลลัวร์ และอัลลัวร์ พีแอนด์อี ของนายตุน มิน ลัต ไม่เกี่ยวกับตน

ขอย้อนไปถึงความเป็นมา ตอนตนสร้างโรงแรมที่เมียนมา ตอนนั้นไม่มีไฟฟ้า ต้องปั่นไฟเอา รัฐบาลเห็นใจก็ลากไฟมาให้ใช้ที่โรงแรม หน่วยงานต่างๆ ก็เริ่มมาซื้อขายไฟ ตนทำมา 15 ปีไม่เคยมีปัญหา เพิ่งมีตอนด่านปิด 3 ปี ก็ถูกโยงไปพัวพันบัญชีม้า เงินถูกโอนไปที่การไฟฟ้า ไม่มีใครเอาเงินบริสุทธิ์ไปจ่ายให้การไฟฟ้าเพื่อให้เป็นเงินสกปรกหรอก

การค้าขายชายแดนโอนเงินไม่มีทางอื่น ยกเว้นโอนผ่านโต๊ะเงิน เพราะไม่มีธนาคารที่รองรับได้ การโอนเงินผ่านโต๊ะเงินก็คือ สมมติให้เขา 10 ล้านฝั่งพม่า เขาก็ไปดูลูกค้าตีซะว่า 10 คน ที่มีเงินคนละล้านแล้วอยากได้ที่พม่า เขาก็สั่งให้ลูกค้า 10 คนนี้ยิงไปที่จุดหมาย ก็คือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อาจจะเป็นหนึ่งหรือสองบัญชีที่ไปพัวพันเรื่องไม่ดี

ตนขอความเป็นธรรมไปถึงอดีตอัยการสูงสุดหลายครั้งว่าพิสูจน์ให้ดูได้ว่ามีบริษัทเป็นร้อยรายโอนเงินแบบนี้โดยผ่านโต๊ะเงินเข้าบริษัทตัวเอง แม้กระทั่งบริษัทยักษ์ใหญ่ และมีบัญชีม้าไปเกี่ยวข้องด้วย และไม่ได้โอนไปที่รัฐวิสาหกิจแบบตนด้วย แต่เข้าบริษัทตัวเอง เขาก็ไม่โดนจับเลย ตนโดนคนเดียว

นายอุปกิตกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าเป็นขบวนการสมคบคิดกัน รังสิมันต์ โรม เอาเรื่องตน ส.ว.ทรงเอ ไปหาเสียงก่อนเลือกตั้ง สิ่งที่เขาเอามาอภิปรายก็เอามาจาก พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ โดยมี พ.ต.ท.ธีรวัตร์ ปัญญาณ์ธรรมกุล ซึ่งเป็นสามี นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หรือทนายแจม ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล โพสต์เชียร์ชมเชยและขยายความเรื่องดังกล่าว

ตอนนี้ตนฟ้อง รังสิมันต์ โรม 3 คดี และจะมีเพิ่มอีก ฟ้องนายอัจฉริยะ 2 คดี ตนฟ้องจริงไม่ได้เพื่อปิดปาก จะเอาความให้ถึงที่สุด รังสิมันต์ โรม อภิปรายในสภาตนไม่ว่า แต่มาเผยแพร่ในโซเชียลฯ ต่อ ส่วน ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ พูดคุยกันเข้าใจตนถอนฟ้องแล้ว ส่วนคนอื่นไม่ถอนและไม่ให้อภัยด้วย