ลุ้นระทึก ‘ไอซ์-รักชนก’ ขึ้นศาลคดีม.112 หากศาลสั่งคุก ส่งเรือนจำ พ้นส.ส.ทันที

โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ (iLaw) โพสต์ข้อความใน x iLawFX @iLawFX ว่าพรุ่งนี้ เวลา 9.00 น. ศาลอาญานัดไอซ์-รักชนก ศรีนอก ฟังคำพิพากษาในคดี #ม112 เธอถูกดำเนินคดีจากการทวีตและรีทวีตข้อความของผู้อื่นรวม 2 ข้อความ คดีนี้หากศาลตัดสินว่า มีความผิดและสั่งลงโทษจำคุก โดยไม่ให้ประกันตัว หรือ ให้เข้าเรือนจำเพื่อรอคำสั่งประกันตัว เธอจะหลุดออกจากตำแหน่งสส.ทันที

ไอลอว์ ระบุว่า ไอซ์-รักชนก ปัจจุบัน เป็นสส.สังกัดพรรคก้าวไกล เขตบางบอน-หนองแขม กทม. เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนหน้านี้ในปี 2557 ไอซ์เคยแสดงความคิดเห็นสนับสนุนการรัฐประหารบนโลกออนไลน์ เพราะคิดว่าการรัฐประหารจะทำให้การชุมนุมและความวุ่นวายยุติลง แต่เมื่อมีโอกาสถกเถียงกับเพื่อนในประเด็นการเมือง จึงเริ่มเปลี่ยนความคิด ปี 2564 ไอซ์-รักชนกเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นจากการตั้งคำถามตรงไปตรงมาบนแอพพลิเคชั่นคลับเฮาส์จนได้รับฉายาตัวแสบแห่งคลับเฮาส์ เธอเป็นสมาชิกกลุ่มพลังคลับเฮ้าส์เพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนไหวรณรงค์ เช่น การจัดฟรีคอนเสิร์ต เพื่อระดมทุนเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง นอกจากพื้นที่ออนไลน์ เธอยังไปร่วมการชุมนุมทางการเมืองและแสดงความคิดเห็นในพื้นที่ชุมนุมและโลกออนไลน์เรื่อยมา

วันที่ 10 ส.ค. 2564 มณีรัตน์ เลาวเลิศ ประชาชนทั่วไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ดําเนินคดีกับผู้ใช้แอคเคาท์ทวิตเตอร์ชื่อ “ไอซ์” หรือ @nanaicez กรณีพบแอคเคาท์ทวิตเตอร์ดังกล่าวทวีต และ รีทวีตข้อความและรูปภาพจํานวน 2 โพสต์ ได้แก่ ทวีตที่เกี่ยวข้องการผูกขาดวัคซีนโควิด 19 และ แคมเปญ #28กรกฎาร่วมใจใส่ชุดดํา “โพสต์นี้มีภาพประกอบซึ่งภายในภาพเป็นลักษณะคนถือป้ายข้อความว่า “ทรราช (คํานาม) TYRANT ; ผู้ปกครองบ้านเมืองที่ใช้อํานาจสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ที่อยู่ใต้การปกครอง”

อีกข้อความหนึ่งเป็นการรีทวีตจากทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า นิรนาม โพสต์ไว้ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2563 เป็นภาพป้ายข้อความที่หน้าทำเนียบรัฐบาลว่า เราจะไม่เป็นไท และเขียนข้อความประกอบว่า “เราจะไม่เป็นไทจนกว่ากษัตริย์จะถูกแขวนคอด้วยลำไส้ของขุนนางคนสุดท้าย” ที่เป็นคำกล่าวของ เดอนีส์ ดิเดโรต์ นักปรัชญาฝรั่งเศส และมีแฮชแท็กประกอบ จากนั้นมีบุคคลอื่นรีทวีตของนิรนามประกอบข้อความอีกหนึ่งครั้ง และ แอคเคาท์ที่เป็นเหตุในคดีนี้จึงรีทวีตข้อความของทั้งสองแอคเคาท์ดังกล่าว

จากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวคือ ไอซ์ พนักงานสอบสวนบก.ปอท.จึงออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2564 ในชั้นสอบสวนเธอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา หลังเสร็จกระบวนการ ไม่ได้มีการยื่นคำร้องขอฝากขัง ต่อมาวันที่ 23 มี.ค. 2565 อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีต่อศาลอาญา ศาลสั่งปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพิจารณาด้วยหลักทรัพย์ 100,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ และ กำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยกระทำการหรือเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ในลักษณะทำนองเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหา และให้มารายงานตัวต่อศาลทุก 30 วัน จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ในชั้นศาลไอซ์ให้การปฏิเสธ เธอสู้คดีว่า มีคนส่งรูปไปในกลุ่มไลน์ โดยในภาพที่ส่งนั้น ไม่ใช่ข้อความที่ตนโพสต์ แต่มีชื่อแอคเคาท์ของตนติดอยู่ จากนั้นก็มีผู้นำภาพข้อความดังกล่าวไปแจ้งความ ซึ่งก็ได้พิสูจน์ไปว่าไม่ใช่คนทวีต โดยส่วนตัวไอซ์มองคดีที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่า หลักฐานอ่อนมาก มีเพียงภาพใบเดียว ไปหาหลักฐานโพสต์ ต้นทางก็ไม่เจอ ระหว่างการพิจารณาทนายจำเลย ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 (พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ) มาตรา 14 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 และมาตรา 34 หรือไม่ ต่อมาวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่คำวินิจฉัยเห็นว่าพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1) (2) และ (3) ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา26 และมาตรา 34 วรรคหนึ่ง

หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ศาลอาญานัดไอซ์ฟังคำพิพากษาในวันที่ 13 ธันวาคม 2566 เวลา 9.00 น. ที่ห้องพิจารณา 807

คดีนี้หากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง หรือ ให้ลงโทษแต่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการสู้คดีชั้นอุทธรณ์ในวันเดียวกันกับที่มีคำพิพากษา ก็จะยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้เพราะยังไม่ถือว่าเข้าลักษณะต้องห้าม แต่หากศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก และในวันที่ศาลมีคำพิพากษาศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว หรือสั่งให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาคำสั่ง ซึ่งส่งผลให้จำเลยต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ก็จะถือว่าเข้าลักษณะต้องห้ามเป็นบุคคลที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกและถูกคุมขังตามหมายศาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(6) เป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งส.ส. ทันที

หาก ส.ส. พ้นตำแหน่งด้วยเหตุนี้ ในกรณีที่เป็น ส.ส. แบบแบ่งเขต รัฐธรรมนูญมาตรา 105 (1) กำหนดให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่างลง (เลือกตั้งซ่อม) ยกเว้นอายุสภาเหลืออยู่ไม่ถึง 180 วัน โดยให้จัดการเลือกตั้งซ่อมภายใน 45 วัน นับจากวันที่สมาชิกสิ้นสมาชิกภาพ (นำมาตรา 102 มาบังคับโดยอนุโลม) สำหรับตัวของอดีต ส.ส. หากพ้นจากตำแหน่งในลักษณะที่คดียังไม่ถึงที่สุดและได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวก็ยังถือว่าไม่เข้าลักษณะต้องห้ามสมัครรับเลือกตั้ง และกลับมาลงสมัครใหม่ได้อีก.