“เชาว์” ซัดแรง ประชาธิปัตย์ยุคผู้นำไร้สัจจะ จะก้มหน้ากราบพระแม่ธรณีอย่างไร

“เชาว์ มีขวด” อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความน่าสนใจเกี่ยวกับการรักษาสัจจะของผู้นำทางการเมือง ผู้นำของพรรคประชาธิปัตย์

“เชาว์” กล่าวนำว่า พรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ผู้นำพรรคไม่มี “สจฺจํ เว อมตา วาจา”

“ผมไม่บอกว่าจะได้กี่เขต แต่วันที่พรรคมีวิกฤต ผมประกาศไว้ชัดเจนแล้ว รอบนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่ำกว่า 52 ที่ ผมเลิกเล่นการเมืองทั้งชีวิต เลิกเล่นนะ ไม่ใช่หยุดเล่น เลิกคือหันหลังเดินออกไปเลย”

เริ่มต้นเรื่องราว ที่อยากบันทึกไว้ ด้วยคำพูดของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน ที่กล่าวไว้ในหลายเวทีหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ “วันที่ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มี “สจฺจํ เว อมตา วาจา” เพราะจากที่เคยบอกจะวางมือทางการเมือง กลับมารับหน้าที่กุมบังเหียนพรรค ด้วยเหตุผลว่า

“ผมมีความจำเป็นครับ และผมก็อยากจะเห็นพรรคเดินไปข้างหน้า ผมจะทำทุกอย่างให้พรรคมีเอกภาพ ผมจะทำให้พรรคซึ่งมีอยู่แล้วนี้ ยึดมั่นในหลักการและอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และที่สำคัญเมื่อสักครู่ที่ผมคุยกับท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ก็คือ ผมยืนยันกับหัวหน้าอภิสิทธิ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่”

ก้าวแรกของเส้นทางหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ก็ได้ทำลายหลักการ คำขวัญของพรรค “สจฺจํ เว อมตา วาจา” คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะท่านไม่ได้รักษาสัจจะ สัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน

ผมไม่ได้รังเกียจนายเฉลิมชัยเป็นการส่วนตัว แต่การที่นายเฉลิมชัย “ตระบัดสัตย์” ต่อคำพูดตนเองที่ให้ไว้ต่อสาธารณะ แล้วก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสิ่งที่ไม่สง่ามในทางการเมือง และ เป็นการทำลายพรรคประชาธิปัตย์ เพราะทุกคำพูดของนายเฉลิมชัย นับตั้งแต่วันนี้ คือคำพูดของพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัยพูด ก็คือพรรคพูด เพราะฉะนั้นตราบใดที่นายเฉลิมชัยยังเป็นผู้นำพรรค พรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่มีความน่าเชื่อถือต่อสาธารณะอีกต่อไป

“ผมไม่แน่ใจว่า นายเฉลิมชัย จะก้มกราบพระแม่ธรณีบีบมวยผม บริเวณลานที่ทำการพรรค ซึ่งมีคำขวัญ “สจฺจํ เว อมตา วาจา ” “คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย“ จารึกอยู่ใต้ฐานพระแม่ธรณีฯ ตราสัญลักษณ์ของพรรค อย่างไม่ละอาย ได้อย่างไร ในเมื่อท่านไม่ได้มีวาจาสัตย์จริง ทุกคำพูดที่พ่นออกมาจะฟื้นฟูพรรค สำหรับผมไม่มีความน่าเชื่อถือแม้แต่น้อย เพราะวันนี้คำว่า “พรรค” ถูกทำลายจากคำว่า “พวก” “อุดมการณ์” ถูกทำลายเพราะความกระสันในอำนาจและผลประโยชน์ ไม่น่าแปลกใจที่นายเฉลิมชัย จะไม่กล้าฟันธงว่า พร้อมเป็นฝ่ายค้านไม่ร่วมรัฐบาล เพราะบางคนเห็นแสงรำไร กับ 2 โควตารัฐมนตรีในรัฐบาลที่ยังว่างอยู่”

เป็นที่รับรู้กับว่า “เชาว์ มีขวด” ก้าวเข้าสู่วงการทางการเมืองจากการชักชวนของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ให้เข้ามาทำหน้าที่รองโฆษกพรรค ในสมัยที่อภิสิทธิ์นั่งเป็นหัวหน้าพรรค และถือว่าทำหน้าที่ได้ดี เมื่ออภิสิทธิ์ถอยออกไป เชาว์ ก็ลดบทบาทตัวเองลง ไปประกอบอาชีพทนายความเหมือนเดิม

#นายหัวไทร #หัวหน้าประชาธิปัตย์ #สัจจะวาจา