“อุปกิต”ยัน ฟ้องหมิ่น “โรม” เพื่อปกป้องเกียรติยศ ย้ำเรียกค่าเสียหาย100ล้าน

“สว.อุปกิต” ยืนยัน เดินหน้าฟ้องหมิ่นประมาท “รังสิมันต์ โรม” เพื่อปกป้อง เกียรติยศศักดิ์ศรี ชี้ใครใส่ความ ให้ร้ายคนอื่น ต้องได้รับผลกรรม ย้ำเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท

นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า วานนี้ (4 ธ.ค.) ศาลอาญา รัชดาฯ นัดตนและ นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (กก.) สอบคำให้การ และ ตรวจพยานหลักฐานคดีที่ตนฟ้องนายรังสิมันต์ ข้อหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท โดยคดีนี้นายรังสิมันต์ เคยใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.เลื่อนนัดสอบคำให้การ จากวันที่ 21 ส.ค. 2566 มาเป็นวันที่ 4 ธ.ค. โดยนายรังสิมันต์ ใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกันตัวเองสู้คดี ขณะที่ศาลกำหนดวันสืบพยานโจทก์วันที่ 10 ต.ค.2567 และ สืบพยานจำเลย วันที่ 11 ต.ค.2567

“นายรังสิมันต์ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้หมิ่นประมาท อ้างเป็นการทำหน้าที่ ส.ส.โดยเป็นการอภิปรายในสภาฯ ซึ่งผมก็ไม่ได้ฟ้องนายรังสิมันต์ในกรณีนี้ แต่ฟ้องในประเด็นที่นายรังสิมันต์นำข้อมูลมาหมิ่นประมาท ทั้งผ่านการไลฟ์ตามสื่อโซเชียล และใช้เป็นประเด็นหาเสียงตามเวทีต่างๆ ซึ่งยืนยันจะเอาผิดถึงที่สุดให้เป็นคดีตัวอย่าง” นายอุปกิต กล่าว

นายอุปกิต ยืนยันว่า การฟ้องคดีหมิ่นประมาทไม่ใช่เป็นการฟ้องปิดปากเหมือนที่บรรดาด้อมส้มพยายามสร้างกระแส แต่เป็นการปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรี และ เป็นเรื่องกฏแห่งกรรม ที่ใครก็ตามที่ใส่ร้ายใส่ความคนอื่นก็ต้องได้รับผลกรรมที่ตนเองก่อขึ้น ดังนั้นการที่ศาลรับฟ้องไม่ว่าจะเป็นกรณีนายรังสิมันต์ หรือ กรณีตนฟ้องนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ หมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท แสดงว่า คดีเหล่านี้มีมูล

“ฝากไปถึงคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้ามาเป็นนักการเมือง ย้อนไปพิจารณาดูสิ่งที่ผมเคยพูดถึงทฤษฏีสมคบคิด การป้ายสีทางการเมืองเพื่อหวังคะแนนนิยม ได้ชนะเลือกตั้ง วันนี้อาจจะมีอาชีพใหม่ ที่มีการสมคบระหว่างเจ้าหน้าที่กับบรรดานักการเมือง บรรดานักร้อง นักแฉ ที่ออกมาเคลื่อนไหวเปิดโปงเรื่องต่างๆ แต่จริงๆแล้วหวังจะได้เงินส่วนแบ่ง 25 % จากกฏหมายใหม่คดียาเสพติด หรือไม่ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องเลวร้ายมาก” นายอุปกิต กล่าว