สุสานฮูมายัน: สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และการล่มสลายของราชวงศ์โมกุล
ราชวงศ์โมกุล เป็นจักรวรรดิ์ที่ปกครองอินเดียยาวนานกว่า 400 ปี พวกเขาเป็นลูกหลานฝ่ายแม่ของเจง กีส ข่าน ผู้สร้างกองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ชาวมองโกลจะยกย่องชาวตีบู บรรพบุรุษฝ่ายพ่อ ซึ่งเป็นตระกูลข่านที่มาจากอุซเบกีสถาน เคยปกครองบางส่วนของรัสเซีย อิหร่าน อินเดียเหนือ อัฟกานิสถาน ตลอดจนยุโรป ก่อนจะแตกสลายภายในเวลาประมาณ 100 ปี
บาบู ลูกหลานเจงกีส ข่าน ปกครองคาบู เมืองยากจนในเอเชียกลาง ต้องการขยายไปยังดินแดนใหม่ ได้นำกองทัพม้า 12,000 นายผสมผสานกับปืนใหญ่เอาชนะกองทัพของ ซุลต่านอิบราฮิม โอดี ที่มีกำลังพลมากกว่า 100,000 นายได้ใน 1 วัน ในปี 1526 เข้าปกครองเดลี
ฮูมายัน ผู้ลูกชาย ได้เป็นจักรพรรดิ์ปกครองเดลีแทนบาบู ผู้พ่อ แต่ในไม่นานกองทัพของเขาได้พ่ายแพ้แก่กองทัพเชอชาเชอชาวอัฟกัน ต้องลี้ภัยกับขุนพลไม่กี่นาย ประมาณ 10 ปีได้ยกทัพกลับมาเดลี เอาชนะกองทัพของเชอชาเชอได้สำเร็จ
หลังจากปกครองเดลีได้ 6 เดือน ฮูมายันได้ลื่นล้ม และเสียชีวิต ลูกชายที่ยังเป็นวัยรุ่นอัคบาร์ ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิ์แทน เขาได้สร้างสุสานขนาดใหญ่เสร็จหลังจากนั้นอีก 10 ปี ครอบคลุมหลุมฝังศพของบิดา
ยุคทองของโมกุล เริ่มจากจาลาลุดดิน โมฮัมหมัด อัคบาร์ หรือ “อัคบาร์มหาราช” ภายใต้การปกครองของเขา อินเดียเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าทั้งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม รวมถึงมีสันติสุขระหว่างศาสนา อาณาจักรโมกุลได้เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรฮินดูในราชวงศ์ราชบุตรหลายแห่ง แม้จะยังมีอาณาจักรราชบุตรหลายแห่งแข็งข้อต่อจักรวรรดิโมกุลอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย แต่ในที่สุดก็จำนนต่อจักรพรรดิอัคบาร์
สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิ์อัคบาร์ คือ สุสานอุมายัน ก่อสร้างโดยช่างจากเปอร์เชียผสมผสานกับสถาปัตยกรรมฮินดู ตัวอาคารตั้งอยู่ในสวนขนาดใหญ่มีแม่น้ำ 4 สายไหลผ่าน มีต้นไม้ร่มรื่น เป็นภาพที่จำลองมาจากอัลกุรอ่าน ซึ่งแนวคิดนี้ถูกนำมาสร้างมัสยิดสีชมพูในมาเลเซีย
ด้านล่างอาคารเป็นหลุมฝังศพ ชั้นที่ 2 เป็นอาคารที่พัก และชั้นที่ 2 เป็นโดมขนาดใหญ่ สุสานเป็นแห่งสันณิษฐานว่า จักรพรรดิ์อัคบาร์ สร้างเพื่อยกย่องพระบิดา หรือสร้างความแสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่ของโมกุล
สุสานฮุมายัน เป็นต้นแบบของการก่อสร้างทัชมาฮาลาล สุสานหินอ่อนทั้งหลังในอีก 70 ปีต่อมาโดยชาห์เชฮัน จักรพรรดิองค์ที่ 5
โมกุลเป็นจักรวรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่ ได้แผ่อาณาเขตไปมากกว่า 1.25 ล้านตารางไมล์ และปกครองผู้คนมากกว่า 150 ล้านคน หรือคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 ของประชากรโลกทั้งหมดในขณะนั้น
ในศตวรรษที่ 19 อังกฤษได้ยกทัพเข้ายึดอินเดีย ราชวงส์โมกุลได้เข้าไปหลบภัยในสุสานฮุมายัน ก่อนที่จักรพรรดิ์องค์สุดท้ายบาฮาดู ชาร์ซัฟฟา จะยื่นดาบให้ทหารอังกฤษเพื่อยอมแพ้
ลูกหลานราชวงศ์โมกุลถูกทหารอังกฤษจับไปยิงทิ้งทีละคนๆ คนหมดสิ้น ขณะที่ชาร์ซัฟฟาได้ลี้ภัยไปพม่า และเสียชีวิตที่นั้นไม่มีโอกาสกลับเดลีอีกเลย
สุสานฮุมายัน จึงเป็นการแสดงความยิ่งใหญ่และล่มสลายของราชวงศ์โมกุล
อังกฤษได้ยึดครองอินเดีย 200 ปี สุสานฮุมายันถูกดัดแปลงเป็นสวนอังกฤษที่ไม่เหลือความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์โมกุลอีกเลย ก่อนจะถูกทิ้งร้างเมื่ออังกฤษกลับไป
ในปี 2007 สุสานฮุมายันได้รับการบูรณาโดยมูลนิธิตระกูลข่าน นำความโดดเด่นและสวยงามแห่งสถาปัตยกรรมแห่งราชวงศ์โมกุลมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง