ผ.อ.ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ เชื่อรัฐเดินหน้าแก้ปัญหาความไม่สงบปลายด้ามขวานถูกทาง
ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะที่มัสยิดกรือเซะ จ.ปัตตานี ปัจจุบันถือว่าภาพรวมสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ค่อนข้างดีขึ้น โดยเมื่อ 4 ปี ที่ผ่านมาภาครัฐได้เข้าไปช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ลดความตรึงเครียด รวมถึงบรรเทาความไม่พอใจของคนในพื้นที่ที่กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้การพูดคุยสันติสุข ก็ถือว่าเป็นกระบวนการที่ช่วยลดเงื่อนไขของความขัดแย้งได้ในระดับหนึ่งแม้ว่าจะยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน ซึ่งตลอดเวลา 2 – 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์ความรุนแรงลดลงแม้จะยังพอมีอยู่แต่ก็ถือว่าแนวทางที่รัฐบาลทำนั้นจัดเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ สำหรับเรื่องที่อยากฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขณะนี้คงเป็นเรื่องของการจัดสรรงบประมาณจำนวนมหาศาลที่ได้รับมาให้ตรงเป้าคือตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่ออุดช่องว่างไม่ให้งบรั่วไหล ถึงมือชาวบ้านโดยตรง และ อีกประเด็นคือการให้ความเป็นธรรมด้านกฎหมายแก่ชาวไทยพุทธ รวมถึงชาวไทยมุสลิม อย่างเท่าเทียมกัน โดยเจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน อีกทั้งต้องไม่ใช้อคติในการแก้ปัญหาความรุนแรง ซึ่งรัฐควรเพิ่มการให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ด้านวิธีปฏิบัติเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.ศรีสมภพ ระบุว่า การจะแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ปลายด้ามขวานนั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่ารัฐจะสามารถดึงกลุ่มผู้เห็นต่างให้เข้ามามีส่วนร่วมได้มากน้อยแค่ไหน เพราะปัจจุบันยังมีแนวร่วมบางกลุ่มที่ไม่ได้เข้าร่วมกับกระบวนการแต่ก็มีข้อเรียกร้องอยู่ ซึ่งจุดนี้รัฐควรให้ความสนใจและหาวิธีเจรจาเพื่อให้เกิดความครอบคลุมกับทุกฝ่ายต่อไปในอนาคต
Cr.thairath