นายกฯ เป็นเจ้าภาพจัดวงดินเนอร์ หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ชื่นมื่น ‘วราวุธ’ เผยแค่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางการเมือง ‘ภูมิธรรม’ย้ำ กระชับความสัมพันธ์ ยันไม่ใช่กลบข่าว ‘อุ๊งอิ๊ง’ เด่นกว่า ‘นายกฯ’ เผยรอบหน้า ‘อนุทิน’ เป็นเจ้าภาพ
วันที่ 8 พ.ย.2566 เวลา 19.30 น. ที่ร้าน Spider Collection NW303 อาคารโครนอส ชั้น 26 สาทร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล
ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค จะไม่ได้เดินทางมาร่วม แต่ส่ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มาเป็นตัวแทน
นอกจากนี้ ยังมีนายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคม หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่นและเป็นกันเองโดยเมื่อเวลา 20.39 น. นายเศรษฐาได้ทวิตข้อความ พร้อมรูปภาพผ่าน X ว่า มาทานข้าวกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหลังจากทำงานร่วมกันมา 2 เดือนครับ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เราได้มาพบปะพูดคุยกันนอกเหนือจากการประชุม ครม.ด้วยครับ
นายวราวุธ ศิลปอาชา กล่าวถึงวงดินเนอร์อาหารค่ำว่า โดยหลักๆพูดคุยกันถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทำงานตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ถือว่าการได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำรวมกันเป็นสิ่งที่ดีเนื่องจากได้ใกล้ชิดกัน เพราะพรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมรับประทานอาหารร่วมกันและนายกฯก็ให้เกียรติมาเป็นเจ้าภาพรวมถึงมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์พูดคุยแนวทางการทำงาน นายฯไม่ได้มีการเพิ่มเติมให้พรรคร่วมรัฐบาลทำเรื่องใดเป็นพิเศษ ซึ่งนายกฯน่ารักมากได้รับฟังแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เนื่องจากนายกฯมีประสบการณ์ทางด้านทำธุรกิจ ดังนั้นจึงมาฟังผู้หลักผู้ใหญ่ทางการเมือง เช่น นายอนุทินชาญ วีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ รับฟังความคิดเห็นทางการเมืองและแลกเปลี่ยนกันทำให้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมกันดี
เมื่อถามว่าจะมีการนัดรับประทานข้าวกันอีกหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันอาจจะมีการเวียนกันเป็นเจ้าภาพ โดยหากเรียงตามขนาดพรรค ต่อไปก็เป็นของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งอาจจะหารือและเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพแต่จะบ่อยแค่ไหนก็ต้องนัดกันอีกครั้ง
“นายกฯดูมีความสุขในการทำงาน ท่านทำการบ้านมาดี และมีทีมอยู่เบื้องหลัง ที่ดีรวมถึงนายกฯก็มีองค์ความรู้เยอะ ซึ่งถือว่า เป็นการเตรียมตัวมาดี และให้เกียรติกับทุกพรรค ทั้งนี้ในที่ประชุมยังไม่ได้พูดถึงโปรเจคใหญ่ของรัฐบาลที่จะทำร่วมกัน”
นายภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวว่า ไม่มีอะไร เป็นการทานข้าวร่วมกัน ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 2 เดือน มีแต่พูดคุยกันเรื่องงาน ดังนั้นเมื่อคืนนายกฯ จึงถือโอกาสมาพูดคุย ทุกคนก็รู้สึกดี ขณะที่นายกฯ ก็พยายามสอบถามสารทุกข์สุกดิบว่า แต่ละคนทำอะไรกันมาบ้าง ซึ่งทุกคนก็รู้สึกดีที่ได้รับประทานอาหารที่นายกฯ เป็นเจ้าภาพ ดังนั้นจึงมีการตกลงกันว่า จากนี้จะมีการหมุนเวียนสลับกันเป็นเจ้าภาพเดือนละหนึ่งครั้ง ครั้งต่อไปจะเป็นพรรคภูมิใจไทย
ส่วนกระแสข่าวความขัดแย้งของตนกับ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ซึ่งหากประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันไหน ก็จะนัดกันจูงมือกันเข้าประชุมเลย ความร่วมมือแบบนี้น่าจะทำให้รัฐบาลสามารถทำงานได้เต็มที่ บางครั้งมีอะไรที่ไม่เข้าใจหรืออะไรกันบ้าง ก็จะให้คุยกันเลยจึงไม่น่าที่จะมีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ นายกฯ นัดรับประทานอาหารกับพรรคร่วม เป็นเพราะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีบทบาทเด่นกว่านายกฯ หรือไม่ นายภูมิธรรม ปฏิเสธว่า ไม่มี เพราะ น.ส.แพทองธาร กับนายกฯ พูดคุยกันโดยตลอด และเราก็รู้ว่าช่วยกันทำงานในแต่ละหน้าที่ที่รับผิดชอบ เช่น ตนเมื่อมาเป็นรัฐมนตรี ก็มีความห่างจากพรรค เพราะต้องมาทำงานบริหาร ฉะนั้นหากทำเรื่องพรรค บางครั้งก็ไม่สามารถตอบในรายละเอียดได้ พร้อมย้ำว่าขณะนี้ ในเรื่องของพรรคเพื่อไทย เป็นหน้าที่ของ น.ส.แพทองธาร ที่จะทำพรรคเพื่อไทยให้เข้มแข็ง ขณะที่นายกฯ ก็ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน โดยจะต้องประสานกับ ครม. ทั้งคณะ เพื่อทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย
“เป็นการแยกทำหน้าที่อย่างชัดเจน แต่มีการพูดคุยกันตลอด ส่วนเรื่องการประชุมพรรคที่สำคัญผมกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ก็เข้าร่วมประชุม เพราะนายกฯ กำชับรัฐมนตรีทุกคนขอให้เข้าประชุมด้วย และถ้านายกฯ ไม่ติดภารกิจ ก็จะเข้าร่วมประชุมพรรคด้วย เพื่อจะได้มีความสัมพันธ์กับ สส. ในการสานต่อเรื่องการทำงาน เพราะ สส. ได้ลงพื้นที่พบประชาชน ก็จะได้สะท้อนความรู้สึกกลับมาเพื่อมาปรับการทำงาน และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็จะได้ชี้แจง และหากติดขัดอะไรก็บอกมา เพื่อจะได้หาทางแก้ปัญหาหรือพูดคุยกัน” นายภูมิธรรม กล่าว.