คปท. บุกทำเนียบ จี้ นายกฯ ส่งตัว ‘ทักษิณ’ กลับเรือนจำ ขู่จัดม็อบมาทุกสัปดาห์

คปท. นำมวลชน บุกทำเนียบ จี้ นายกฯ ส่งตัว ‘ทักษิณ’ กลับเรือนจำหลังนอนรพ.นาน หวั่นเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวให้รัฐบาลบริหารงานไม่ยั่งยืน ขู่หากไม่ดำเนินการจะมาจัดม็อบทุกสัปดาห์

วันที่ 31 ต.ค.2566 ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล และ นายยัสเซอร์ ยีหมัด แกนนำ คปท. พร้อมมวลชนนับสิบคน และรถติดเครื่องขยายเสียงพร้อมปราศรัยเรียกร้องให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้นำตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับไปควบคุมตัวที่เรือนจำ หลังจากรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ มาเป็นเวลานานเกินไป

นายพิชิต ปราศรัยว่า ตอนนี้สังคมยังตั้งคำถามว่าวันนี้นายเศรษฐา เป็นนอมินีของระบอบทักษิณ มีอำนาจตัดสินใจจริงหรือไม่ ในฐานะที่นั่งอยู่ตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ต้องสั่งการให้นำตัวนายทักษิณกลับเข้าเรือนจำอย่างเร่งด่วน

นายพิชิต กล่าวว่า ทุกวันนี้ นายทักษิณได้รับการดูแลเป็นกรณีพิเศษ และเราไม่เชื่อว่านายทักษิณ ยังป่วยหนัก ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมเราจึงมาสื่อสารกับรัฐบาล ซึ่งเราจะทำเช่นนี้ทุกวันอังคาร จนกว่านายทักษิณจะกลับเข้าเรือนจำ และทุกๆวันอาทิตย์เราจะไปเยี่ยมนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อเป็นการสื่อสารว่าเราไม่พอใจต่อการเลือกปฏิบัติ

ทั้งที่รัฐบาลประกาศเองว่า จะเป็นรัฐบาลสมานฉันท์ปรองดอง แต่ถ้าเป็นเช่นนี้ ท่านจะทำให้เกิดความปรองดองได้อย่างไรในเมื่อความยุติธรรมยังไม่มี ดังนั้น เชื่อว่าการปรองดองไม่ยั่งยืนแน่ ถ้านายทักษิณ ชินวัตรไม่เคยอยู่ในเรือนจำ อนาคตมันจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวให้รัฐบาลก็เป็นได้ จะเห็นได้ว่ารัฐบาลแค่เข้ามาบริหารประเทศครั้งแรก ก็ทำให้คนสงสัยว่าเหมือนการสมคบคิดกัน

วันนี้เราไม่ได้มาไล่รัฐบาล แต่กลับกัน เราอยากให้รัฐบาลเดินหน้าบริหารประเทศได้อย่างยั่งยืน เราเป็นห่วงรัฐบาล จึงมาเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามกฎหมาย ด้วยการส่งตัวนายทักษิณเข้าเรือนจำ

นาพิชิต กล่าวอีกว่า การเอานักโทษกลับเรือนจำไม่ใช่เรื่องยากเลย หรือจะให้ประชาชนเป็นคนทำเอง และอยากให้นักการเมืองได้ออกมารับหนังสือไม่ใช่ส่งข้าราชการออกมารับแทน อย่าโยนความรับผิดชอบให้กับข้าราชการตัวเล็กๆ แต่นักการเมืองลอยตัวจากปัญหานี้ วันนี้จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนที่มาส่งเสียงสื่อสารให้ท่านได้บังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเวลานัดหมายของ คปท. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ พร้อมจอดรถยนต์ตำรวจปิดกั้นการจราจร ทำให้มวลชนไม่สามารถเข้ามายังบริเวณทำเนียบฯได้ จึงปราศรัยบริเวณถนน

จากนั้นเวลา 11.30 น. นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ เดินทางมารับมอบหนังสือ แต่ยังไม่เป็นที่พอใจของมวลชน ก่อนเดินทางกลับได้โห่ร้อง เพราะเห็นถึงท่าทีของนายสมคิด ที่ไม่มีความจริงใจในการรับหนังสือ และนายพิชิตยังได้ประกาศนัดหมายชุมนุมในวันอังคารที่ 6 พ.ย. เวลา 10.00 น. เพื่อยื่นหนังสืออีกครั้งหนึ่ง