“อิสราเอล”ยัน มีหลักฐาน “อิสลามิก จิฮัด” ถล่ม “รพ. ในกาซา” ชาติอาหรับไม่ฟัง ดาหน้าประณาม

กองทัพอิสราเอล ยืนยัน มีหลักฐานว่ากลุ่มอิสลามิก จิฮัด เป็นฝ่ายยิงถล่มโรงพยาบาลในฉนวนกาซาที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ขณะที่ชาติอาหรับดาหน้ามาประณามพร้อมกล่าวโทษเป็นฝีมือของอิสราเอล ชี้ละเมิดกฎหมายสากลอย่างชัดเจน

โฆษกกองทัพอิสราเอลแถลงข่าวที่กรุงเทลอาวีฟว่า มีหลักฐานที่จะแจกจ่ายให้แก่สื่อมวลชนทุกคนเพื่อยืนยันว่า ระเบิดที่โรงพยาบาลในกาซาเกิดจากกลุ่มอิสลามิก จิฮัดยิงจรวดผิดพลาด ระบบเรดาร์ของอิสราเอลติดตามจรวดที่กลุ่มก่อการร้ายในกาซาระดมยิงในช่วงเกิดระเบิดที่โรงพยาบาล ผลการวิเคราะห์วิถีจรวดพบว่า ถูกยิงจากสถานที่ใกล้กับโรงพยาบาล โฆษกยืนยันด้วยว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอลหรือไอดีเอฟ (IDF) ไม่ได้ยิงใส่โรงพยาบาลทั้งทางบก ทางน้ำหรือทางอากาศ

ด้านกลุ่มฮามาสที่แถลงตั้งแต่โรงพยาบาลอัล-อาห์บี อาหรับถูกถล่มเมื่อวันอังคารว่าเป็นฝีมืออิสราเอล แถลงตอบโต้คำแถลงล่าสุดของโฆษกกองทัพอิสราเอลว่า เรื่องโกหกทั้งเพของอิสราเอลไม่สามารถหลอกลวงใครได้ อิสราเอลต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อการสังหารหมู่น่าสยดสยองด้วยอาวุธอเมริกันที่มีแต่ฝ่ายยึดครอง (หมายถึงอิสราเอล) เท่านั้นที่มีอาวุธเหล่านี้อยู่ในครอบครองขณะเดียวกัน ประเทศอาหรับที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลกล่าวโทษอิสราเอลว่า สังหารคนที่โรงพยาบาลในกาซาไม่ต่ำกว่า 200 คน โดยสำนักข่าวดับเบิลยูเอเอ็ม (WAM) ของทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) รายงานในเช้าวันนี้ว่า ยูเออีขอประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีของอิสราเอลที่ทำให้มีคนล้มตายและบาดเจ็บหลายร้อยคน

ส่วนสำนักข่าวบาห์เรนรายงานว่า กระทรวงต่างประเทศบาห์เรนได้แสดงการประณามและการกล่าวโทษอย่างจริงจังของราชอาณาจักรบาห์เรนต่อการทิ้งระเบิดของอิสราเอล ยูเออีและบาห์เรนได้ลงนามข้อตกลงอับราฮัมเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 สถาปนาความสัมพันธ์ในระดับปกติกับอิสราเอล โดยมีสหรัฐเป็นคนกลางเจรจา

ด้านโมร็อกโกที่ลงนามข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับอิสราเอลในเดือนธันวาคม 2563 ประณามอิสราเอลว่าโจมตีโรงพยาบาล เช่นเดียวกับอียิปต์ซึ่งเป็นอาหรับประเทศแรกที่สถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับอิสราเอลในปี 2522 ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ของอียิปต์ประณามว่า อิสราเอลทิ้งระเบิดโรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อาหรับที่ทำให้มีผู้บริสุทธิ์ล้มตายจำนวนมาก ท่ามกลางพลเรือนปาเลสไตน์ในกาซา การเจตนาทิ้งระเบิดนี้เป็นการละเมิดกฎหมายสากลอย่างชัดเจน

ส่วนซาอุดีอาระเบียที่ระงับการเจรจาสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอลตั้งแต่เกิดความขัดแย้งล่าสุด ระบุว่า เป็นการก่ออาชญากรรมชั่วร้ายของกองกำลังยึดครองฝ่ายอิสราเอล

ขณะที่จอร์แดนระบุว่า อิสราเอลต้องรับผิดชอบเหตุร้ายแรงนี้ ด้านองค์การความร่วมมืออิสลามหรือโอไอซี (OIC) กล่าวโทษอิสราเอลว่า ก่ออาชญากรรมสงคราม ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และก่อการร้ายที่ดำเนินการโดยรัฐ ส่วนเลขาธิการคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับหรือจีซีซี (GCC) กล่าวว่า เป็นหลักฐานโจ่งแจ้งชัดเจนว่ากองกำลังยึดครองฝ่ายอิสราเอลก่อเหตุละเมิดอย่างร้ายแรง