กองทัพอิสราเอล เตรียมถล่มใหญ่ฉนวนกาซาอีกระลอก หลังแจ้งให้ ตัวแทนสหประชาชน เประกาศตือนให้ประชาชนในกาซา 1.1 ล้านคน รีบอพยพไปอยู่พื้นที่ภาคใต้ภายใน 24 ชม.
วันที่ 13 ต.ค.66 สหประชาชาติรับแจ้งว่า อิสราเอลบอกกับประชาชน 1.1 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณตอนเหนือของฉนวนกาซาให้ย้ายไปอยู่ในเขตตอนใต้ของดินแดนแห่งนี้ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งโฆษกของสหประชาชาติได้กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวานนี้เรียกร้องให้อิสราเอลยกเลิกคำสั่งดังกล่าว เพื่อมนุษยธรรม
ทั้งนี้ โฆษกของเลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ ที่ทำงานในฉนวนกาซาได้รับแจ้งจากกองทัพอิสราเอลว่า ประชากรทั้งหมดของกาซา ซึ่งอยู่ทางเหนือของ วาดิ กาซา ควรจะอพยพย้ายไปอยู่ทางภาคใต้ของกาซาภายใน 24 ชั่วใมงข้างหน้า ซึ่งคำสั่งนี้เกี่ยวข้องกับประชาชนประมาณ 1.1 ล้านคน คำสั่งดังกล่าวยังครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่สหประชาชาติทั้งหมดและผู้ที่อาศัยหลบภัยอยู่ในสถานที่ของสหประฃาชาติ ซึ่งรวมถึงโรงเรียน ศูนย์สุขภาพและคลินิก
หน่วยงานสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ได้ให้สถานที่พักอาศัยของประชาชนมากกว่าร้อยละ 60 ของผู้ที่ต้องพลัดถิ่นฐานราว 423,000 รายในฉนวนกาซาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และยังไม่มีความชัดเจนว่า มีประชาชนจำนวนเท่าใดที่อยู่อาศัยทางตอนเหนือของวาดิ กาซา
สเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกองค์การสหประชาชาติระบุว่า เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ในการอพยพดังกล่าวโดยไม่มีปัญหารุนแรงในเรื่องมนุษยธรรมตามมา สหประชาชาติขอวิงวอนให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว หากมีจริง เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้สถานการณ์ที่อยู่ในสภาพเลวร้ายอยู่แล้วยิ่งเลวร้ายลงไปอีก
กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ ตอบโต้ท่าทีของ UN ว่า การตอบสนองของสหประชาชาติต่อคำเตือนล่วงหน้าของอิสราเอลต่อชาวฉนวนกาซาถือเป็นเรื่องน่าละอาย และเพิกเฉยต่อความโหดร้ายของการที่อิสราเอลถูกโจมตี ทั้งนี้ ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 13 ต.ค. 2566 มีรายงานว่า กองทัพอิสราเอล ประกาศเตือนให้ผู้อยู่อาศัยหลายแสนคนย้ายไปทางใต้ของฉนวนกาซาเพื่อความปลอดภัยของตนเอง ในขณะที่กลุ่มฮามาส กองกำลังติดอาวุธที่เป็นคู่ขัดแย้งกับอิสราเอล ขอให้ชาวปาเลสไตน์ยังคงอยู่ในที่พักอาศัย
อินาส ฮัมดาน เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติในเมืองกาซา กล่าวว่า สถานกาณณ์ล่าสุดนั้นโกลาหลเพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร โดยตามตัวเลขล่าสุดจากสหประชาชาติ ผู้อยู่อาศัยในกาซาอย่างน้อย 338,000 คนต้องพลัดถิ่นนับตั้งแต่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ส่งผลให้อิสราเอลโจมตีทางอากาศตอบโต้ต่อพื้นที่ฉนวนกาซา
ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2566 ทหารอิสราเอลประมาณ 3 แสนนาย รวมพลบริเวณด้านนอกใกล้กับฉนวนกาซา ซึ่งแม้ พล.ท.โจนาธาน คอนริคัส โฆษกกองทัพอิสราเอล จะไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่าอิสราเอลกำลังเตรียมการโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซา แต่ก็มีการเครียมความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ทั้งรถถัง รถหุ้มเกราะ และปืนใหญ่ นั่นคือการเตรียมการสำหรับขั้นตอนต่อไปของ สงครามที่จะเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
ในวันที่ 12 ต.ค. 2566 ทางการอิสราเอลระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,300 รายในการรุกรานของกลุ่มฮามาส และบาดเจ็บอย่างน้อย 2,800 ราย ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ เปิดเผยว่า ชาวฉนวนกาซาอย่างน้อย 1,537 คนถูกสังหารในการตอบโต้ของอิสราเอล รวมถึงเด็ก 500 คน และบาดเจ็บอีก 6,600 คน โดยนับตั้งแต่การรุกรานของกลุ่มฮามาส อิสราเอลได้ออกการปิดล้อมฉนวนกาซาโดยสมบูรณ์ ไม่อนุญาตให้มีอาหาร น้ำ น้ำมันเชื้อเพลิง ยา หรือไฟฟ้าเข้าไป ส่งผลให้ภูมิภาคนี้จวนจะเกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม